กันแดดซึมไว คุมมันดีเยี่ยม
เรื่องของแดดไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เพราะไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย แดดก็พร้อมปล่อยรังสียูวีมาทำร้ายผิวเสมอ นี่ยังไม่รวมพวกฝุ่นละอองและแสงอินฟาเรดจากไฟนีออน หรือแสงหน้าจอสมาร์ทโฟนที่เห็นผิวเราเป็นของหวานอีกนะ แต่เราสามารถป้องกันได้ระดับหนึ่งด้วยครีมกันแดดนี่แหละ และเราพามารู้จักกับครีมกันแดด 3 ตัว มีทั้งตัวยอดฮิต ตัวคุมมัน และตัวปกป้องผิวจากมลภาวะได้มารีวิว นอกจากนี้ยังพาไปทดสอบระดับการปกป้องผิวจากแสงแดดอีกด้วย
Allie Extra UV Highlight Gel SPF50+ PA++++ (850 บาท)
กันแดดที่ช่วยปรับผิวกระจ่างใสทันทีหลังทา เพราะเป็นกันแดดผสมความเป็นโทนอัพที่ผสานประกาย Pearl ละเอียดในการกระจายแสงเพื่อการสร้างผิวที่สว่างขึ้น พร้อมป้องกันแสงแดด รวมถึงให้การบำรุงผิวด้วยส่วนผสมของ ไฮยาลูรอนิก แอซิด และคอลลาเจน รวมถึงปราศจากน้ำหอม และพาราเบน อีกทั้งยังผ่านการทดสอบจากทางแบรนด์แล้วว่ากันน้ำได้นานกว่า 80 นาที
ผลลัพธ์: เป็นเนื้อครีมออกสีเขียวเบาๆ ที่แตกตัวเป็นเนื้อเจลที่ซึมไวมาก และเราเลิฟตรงที่นอกจากจะเป็นกันแดดยังเป็นเมคอัพ เบสได้ก่อนที่จะลงรองพื้น เพราะตัวนี้จะเสริมให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นแบบหน้าไม่ลอย และดีตรงเข้ากับทุกโทนสีผิว ไม่มีกลิ่น และกันน้ำได้ค่อนข้างนาน โดยไม่เป็นคราบระหว่างวัน และจากการทดสอบกับแผ่น Smart Sun โดยการตากแดดทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง ปรากฎว่า แผ่นทดสอบไม่เปลี่ยนสี แสดงว่าสามารถป้องกันผิวเราจากรังสียูวีได้ดีในระยะเวลาที่เราทดสอบ นอกจากนี้ยังเช็ดกันแดดออกได้ง่ายด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า แต่ถ้าสาวๆ แต่งหน้าทับก็ควรจะเช็ดด้วยรีมูฟเวอร์นะจ้า
Aqua+ Series Multi – Protection Sunscreen SPF50+ PA++++ (1,450 บาท)
มีเทคโนโลยีที่ช่วยปกป้องผิวหน้าจากรังสียูวีได้ครบถ้วน ทั้ง UVA UVB และรังสีอินฟาเรดที่เราต้องเจอในทุกๆ วัน และยังเป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอย และความหมองคล้ำ เหมาะกับคนผิวมัน ผิวบอบบางและเป็นสิวง่าย นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมจากธรรมชาติที่มีสารแอนตี้ออกซิแดนซ์ถึง 4 ชนิด มีวิตามิน แร่ธาตุ และกรดอะมิโน จึงช่วยฟื้นบำรุงผิวให้แข็งแรงในทุกๆ ครั้งที่ใช้ เสริมความชุ่มชื้น และสร้างความยืดหยุ่นให้ผิว
ผลลัพธ์: เป็นเนื้อครีมสีขาว เกลี่ยง่าย ซึบซาบไว มีกลิ่นอ่อนๆ และไม่เหนอะผิว โดยในหนึ่งครั้งจะใช้ปริมาณเท่าเหรียญบาท ทาเฉพาะบริเวณใบหน้า และเราว่าเหมาะมากๆ กับคนผิวมัน เพราะไม่เป็นการเพิ่มความมันระหว่างวัน ส่วนคนที่ผิวแห้ง แนะนำให้ใช้หลังบำรุงด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นก่อนชั้นนึง จากนั้นค่อยตามด้วยครีมกันแดด สำหรับใครที่ต้องทำงานเผชิญแดดเยอะๆ ตัวนี้ก็ค่อนข้างคุมมันได้ดีเช่นกันจ้า ส่วนผลการทดสอบกับ Smart Sun ผลคือเปลี่ยนเป็นสีชมพู แสดงว่าหลังผ่านไป 1 ชั่วโมงเราควรจะทาครีมกันแดดเพิ่ม เพื่อประสิทธิภาพการปกป้องผิวจากแสงแดดที่ดีขึ้น
Giorgio Armani Crema Nera Moisturizing UV Filter SPF50+ PA++++ (4,200 บาท)
ให้การบำรุงพร้อมการปกป้องในหลอดเดียวเพื่อผิวเบาสบาย เพิ่มความชุ่มชื่น และยังช่วยดูแลผิวไม่ให้ร่วงโรย เพราะหลอดนี้ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ ครอบคลุมทั้งป้องกันการสูญเสียน้ำ รวมถึงความร้อน และแสงส่วนเกินจากรังสียูวี แถมยังมีส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพของการต้านมลภาวะ พร้อมฟื้นการบำรุงอีกด้วย อีกทั้งยังควบคุมความมันเป็นพิเศษจากส่วนผสมของโคลนขาว
ผลลัพธ์: เป็นกันแดดที่มีแพ็กเกจหรูหรามาก มาพร้อมเนื้อเจลครีมที่ซึมไว และให้ผิวแมตต์ ไม่มัน ไม่ทิ้งคราบขาว ซึ่งตัวนี้ยังใช้เป็นเมคอัพเบสได้ โดยไม่เหนอะผิว สำหรับคนที่ผิวขาดน้ำ ควรบำรุงผิวด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ก่อน เพื่อให้สบายผิวขึ้น และมีความนุ่มละมุน นอกจากนี้จากการทดสอบกับแผ่น Smart Sun ยังคงสีเหลืองเหมือนก่อนการทดสอบ แสดงว่าปกป้องผิวจากรังสียูวีค่อนข้างดีในระยะเวลา 1 ชั่วโมงโดยไม่ต้องทาซ้ำนั่นเอง และตัวนี้ยังตอบโจทย์คนที่มองหากันแดดที่เน้นสารบำรุงผิวอีกด้วย แต่ราคาอาจจะสูงไป ถ้าเปย์ไหว ก็น่าลองนะจ๊ะสาวๆ เหมือนซื้อครีมกันแดดหนึ่งชิ้นได้ทั้งการบำรุงและเมคอัพเบสไปในตัว