ข้าวกล้อง vs ข้าวไรซ์เบอร์รี่ รับข้าวไหนดี!?
ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ต่างเป็นข้าวที่มีประโยชน์กว่าข้าวขาวที่(หลายคน)เลือกทานกันอยู่ แต่ข้าวสองชนิดนี้ก็มีความต่างกันอยู่เช่นกัน แต่ก็เป็นความต่างเล็กน้อย แต่จะแทนกันได้ไหม และมีจุดต่างอย่างไร เดี่ยวเรามาไขเรื่องนี้กัน
ที่มาต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ข้าวกล้อง: จัดเป็นข้าวทุกสายพันธุ์ที่ผ่านการกระเทาะเปลือก ไม่ขัดสีเลยหรืออาจจะขัดเพียงรอบเดียว แต่ยังคงเหลือจมูกข้าวและรำข้าวอยู่ โดยในหนึ่งทัพพีจะมี 70 Kcal เมื่อหุงสุกจะมีความกรุบกรอบ หนุบหนับหน่อย แต่ไม่มีรสชาติเท่าไรจึงค่อนข้างทานง่ายกว่าไรซ์เบอร์รี่
ข้าวไรซ์เบอร์รี่: เป็นข้าวสายพันธุ์หนึ่ง ที่ผ่านการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างข้าวหอมนิลกับข้าวขาวดอกมะลิ 105 จะขัดสีหรือไม่ก็ได้ หรือขัดสีแค่บางส่วน โดยในหนึ่งทัพพีจะมี 80 Kcal รสชาติจะออกหวานหน่อยๆ ปลายลิ้น และจะมีความแข็งกว่าเล็กน้อย เหนียวหนึบ เมื่อเทียบกับข้าวกล้อง จึงมีหลายคน โดยเฉพาะคนที่เพิ่งเริ่มหันมาทานจึงลงความเห็นว่าทานยากกว่า
สีที่ต่างกันมีส่วนให้คุณค่าต่างกัน
ข้าวกล้อง: แท้จริงแล้วจะเป็นสีอะไรก็ได้ที่ผ่านกระบวนการแบบข้าวกล้อง ไม่ขัดสีหลายครั้งเหมือนกับข้าวขาว ทำให้มีสารอาหารอย่างฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมอยู่ ส่วนใหญ่มักเป็นสีน้ำตาลเข้มปนอ่อน แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะมีสีอื่นๆ อย่างสีแดง สีดำ หรือสีม่วง ขึ้นอยู่กับพันธุ์ข้าวที่นำมาผ่านกระบวนการในแบบข้าวกล้องนั่นเอง
ข้าวไรซ์เบอร์รี่: จะเป็นสีม่วงเข้ม เพราะเกิดจากการผสมพันธุ์ข้าว ทำให้มีสารอาหารต่างไปจากข้าวกล้องเล็กน้อย เพราะสีม่วงเป็นสีจากธรรมชาติ ที่มีส่วนประกอบของสารสี ที่เรียกว่า สารแอนโทไซยานิน เป็นหนึ่งในสารต้านอนุมูลอิสระนั่นเอง นอกนั้นก็จะมีสารอาหารคล้ายๆ กับข้าวกล้อง
เพราะฉะนั้นสรุปได้ว่า ทุกข้าวสามารถเป็นข้าวกล้องได้ แม้แต่ข้าวไรซ์เบอร์รี่ เพียงแค่ผ่านกระบวนการกระเทาะเปลือกแต่ยังเหลือจมูกและรำข้าวไว้ เราก็จะเรียกว่าข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่
สารอาหารที่สำคัญต่อร่างกาย
ข้าวกล้อง: สารอาหารสำคัญมักจะอยู่ในจมูกและรำข้าวนี่แหละที่มีทั้งโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุ อย่างโพเทสเซียม และฟอสฟอรัส และมีกากใยสูง จึงอยู่ท้องได้มากกว่าข้าวขาว และช่วยกระตุ้นให้ขับถ่าย สามารถลดอาการอ่อนเพลียได้ รวมไปถึงช่วยควบคุมน้ำหนัก และเสริมการเผาผลาญได้เช่นกัน
ข้าวไรซ์เบอร์รี่: สารอาหารจะคล้ายกับคุณค่าของข้าวกล้อง แต่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ เนื่องจากใช้เวลาในการย่อยกาก ทำให้น้ำตาลที่อยู่ในตัวข้าวค่อยๆ ย่อย ไม่เร็วจนเกินไป รวมถึงควบคุมระดับไขมันในเส้นเลือด และลดอาการท้องผูก นอกจากนี้คนที่ลดน้ำหนักก็ทานได้เช่นกัน
เพราะฉะนั้นจะเลือกทานข้าวชนิดไหนนั้น ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบในแต่ละบุคคล แต่ผู้ที่เป็นโรคไต หรือกำลังฟอกไต ควรปรึกษาแพทย์เจ้าของไข้ เพราะเลือกทานข้าวขาวอาจจะดีกว่า เนื่องจากผู้ป่วยโรคไตนั้นมีปริมาณฟอสฟอรัสค่อนข้างสูง และหากทานข้าวกล้องและข้าวไรซ์เบอร์รี่จะยิ่งทำให้มีปริมาณฟอสฟอรัสสูงเข้าไปอีกนั่นเอง
ข้าวกล้อง vs ข้าวไรซ์เบอร์รี่