ทำนม

ใครบอกว่าการศัลย์หน้าอกเป็นเรื่องของคนที่ต้องการอัพอึ๋มอย่างเดียว แต่จริงๆ การศัลยกรรมหน้าอกนั้น เป็นการเพิ่มความมั่นใจและความสวยงามให้กับผู้หญิง เพราะอาจเป็นคนที่มีขนาดหน้าอกไม่เท่ากัน นมไม่ชิดเหมือนชม หรือแม้กระทั่งนมย้อย ห้อยยาน ทำให้ขาดความมั่นใจ เราก็ต้องหวังพึ่งมีดหมอเพื่อแก้ไขปัญหาหน้าอกต่างๆ ดังนั้นก่อนที่เราจะตัดสินใจทำศัลยกรรมหน้าอก ก็ควรเตรียมตัว และศึกษาหาข้อมูลให้ดี อย่างเช่นสิ่งที่ควรรู้ก่อนศัลยกรรมเสริมหน้าอกอย่างปลอดภัย ทำไมถึงอยากทำนม? ก่อนที่จะตัดสินใจทำ เราต้องดูก่อนว่า “ทำไมเราถึงอยากทำนม” เป็นเพราะหน้าอกเล็ก หรือเพราะสัดส่วนของร่างกายที่ดูไม่บาลานซ์ รวมไปถึงหน้าอกที่หย่อนคล้อย จึงเป็นที่มาของความต้องการในการเสริมหน้าอก พอเรารู้สาเหตุแล้ว ก็จะทำให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ควรรู้ความแตกต่างของซิลิโคนแต่ละชนิด พอเราตัดสินใจได้แล้ว ก่อนอื่นต้องศึกษา ค้นคว้าก่อนว่า ซิลิโคนที่เราต้องการจะยัดเข้าไป มีแบบไหนบ้าง ซึ่งเดี่ยวนี้เราก็สามารถกูเกิ้ลหาได้เอง จึงไม่ยากที่จะเข้าถึงข้อมูลพวกนี้ เทียบข้อดี และข้อเสีย ซึ่งถ้าต้องการข้อมูลที่ลึกลงไปจริงๆ ก็ควรเข้าไปปรึกษาแพทย์โดยตรงที่โรงพยาบาล ควรรู้ว่าหน้าอกของเรามีอาการผิดปกติหรือเปล่า ก่อนที่จะลงดีเทลในการทำนม เราควรเช็กก่อนว่าหน้าอกเรามีปัญหาอะไรมั้ย อย่างน้อยควรเช็กด้วยตัวเองก่อน หรือไปตรวจร่างกายก่อน มีก้อนเนื้อมั้ย เนื้องอกจะมีรึเปล่า ถ้ามีโอกาสเป็นละก็ ควรจะรักษาให้เสร็จก่อนไปทำศัลยกรรม ให้ความสำคัญในการเลือกแพทย์ เนื่องจากการเสริมหน้าอก เป็นการผ่าตัดใหญ่ ดังนั้นความปลอดภัยสำคัญเป็นอันดับแรก ต้องมีการฉีดยาชาและควรจะดมยาสลบก่อนผ่าตัด จึงต้องทำในห้องผ่าตัดที่ได้รับมาตรฐานและทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เลือกคลินิก หรือโรงพยาบาลที่จะศัลยกรรมหน้าอกให้ดี จริงๆ ในแง่ของโรงพยาบาลจะไม่ค่อยมีปัญหาในเรื่องของอุปกรณ์และห้องพักฟื้นเท่าไร

จมูกยังมีการเสริมด้วยกระดูหลังหู แล้วทำไมการศัลยกรรมหน้าอกจะใช้เนื้อเยื่อตัวเองไม่ได้ วันนี้แอดรวบรวมข้อมูลจาก นพ.โชคชัย อมรสวัสดิ์วัฒนา แพทย์ศูนย์ศัลยกรรมตกแต่ง โรงพยาบาลยันฮี ที่พูดถึงการศัลยกรรมหน้าอกด้วยเนื้อเยื่อที่หน้าท้อง และหลังมาให้เพื่อนๆ ได้ศึกษากัน การเสริมหน้าอกโดยใช้เนื้อเยื่อ คือ การเอาเนื้อเยื่อจากหน้าท้อง กล้ามเนื้อหลัง กล้ามเนื้อสะโพก หรือต้นขา มาปลูกถ่ายที่หน้าอกเพื่อสร้างเต้านมใหม่ เป็นเนื้อเยื่อจากร่างกายเรา จึงอาจดูเป็นธรรมชาติกว่าถุงเต้านมเทียม แต่ถ้ามีการแก้ไข ก็จะทำได้ยากกว่า เพราะเป็นการผ่าตัด 2 ที่ เสริมหน้าอกด้วยเนื้อเยื่อตัวเองในกรณีที่มีการนำเนื้อเยื่อมาเสริมหน้าอก จะดูมีความเป็นธรรมชาติมากกว่าการเสริมด้วยซิลิโคน หรือถุงเต้านมเทียม ซึ่งหลักๆ เราอาจจะไม่ต้องมาคอยกังวลถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการใส่ซิลิโคน และการใช้เนื้อเยื่อตนเองในการเสริมก็ยังไม่มีผลต่อการกลับเป็นซ้ำของมะเร็ง เพียงแต่การเสริมหน้าอกด้วยเนื้อเยื่อนั้นเป็นการผ่าตัดใหญ่ ที่ต้องใช้ระยะเวลาในการผ่าตัดนาน และในระยะยาวผู้ป่วยอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนของบริเวณที่ผ่าตัด ทั้งยังเป็นการผ่าตัด 2 จุด ซึ่งหมายถึงเราต้องเจ็บตัว 2 ที่นั่นเอง 2 ตำแหน่ง ในการเลือกใช้เนื้อเยื่อเนื้อเยื่อหน้าท้องการเสริมหน้าอกด้วยเนื้อเยื่อบริเวณหน้าท้อง หรือ TRAM flap เป็นเทคนิคที่นิยมนำมาใช้ในการผ่าตัดเสริมสร้างเต้านม เนื่องจากเป็นวิธีที่ปลอดภัย มีผลแทรกซ้อนน้อย หลังทำผ่าตัดนอกจากจะได้เต้านมที่เป็นธรรมชาติแล้ว ยังทำให้หน้าท้องแบนราบขึ้นด้วย เนื้อเยื่อที่หลังการใช้กล้ามเนื้อที่หลัง หรือ LD flap เป็นวิธีที่นิยมทำมากในปัจจุบัน เนื่องจากมีความปลอดภัย

ชา ตึง ยกแขนไม่ขึ้น รู้สึกแน่นหลังทำหน้าอก อาการแบบนี้ปกติหรือเปล่า? สำหรับคนที่ทำศัลยกรรมหน้าอกอาจจะเกิดความสงสัยว่าทำไมหลังทำแล้วมีอาการเหล่านี้ วันนี้แอดได้รวบรวมอาการ พร้อมไล่ไทม์ไลน์ตั้งแต่ 1 อาทิตย์ จนถึง 1 ปีมาให้เช็คกันว่าถ้าคุณมีอาการแบบนี้ ไม่ต้องตกใจ 7 วันหลังทำหน้าอกตึงแน่น ชา รู้สึกอึดอัด ขยับตัวลำบาก แผลไม่ควรโดนน้ำ ช่วงนี้ให้มีคุณพ่อ คุณแม่ หรือเพื่อนๆ คอยหยิบของที่สูงให้ และควรสวมเสื้อเชิ้ต เพื่อหลีกเลี่ยงการยกแขนสูง 14 วันหลังทำตั้งแต่ถอดผ้า ใส่ซับพอร์ตบราตลอดเวลา อย่าเพิ่งยกแขนสูง แต่สามารถขับรถได้ ทานยาตามคำแนะนำของคุณหมอ และพยายามเดิน นอนหมอนสูง เพื่อให้เลือดไหลเวียนดี จะทำให้แผลหายเร็ว 1 เดือนหลังทำทายาลดรอยแผลเป็น เริ่มยกแขนสระผมได้ หน้าอกอาจยังสูงอยู่ อย่ากังวล ให้นวดหน้าอกได้ แต่ยังไม่ควรนอนคว่ำ สามารถนอนหงาย และนอนตะแคงได้ 3 เดือนหลังทำหน้าอกเริ่มคล้อย เห็นรูปทรงที่ชัด และชิดขึ้น ถอดซับพอรตบราออกได้ สามารถใส่บราปกติได้แล้ว แต่ยังต้องเป็นบราที่ไม่มีโครง ถ้าจะเริ่มออกกำลังกาย อย่าเพิ่มเวท หรือออกกำลังกายที่ต้องใช้กำลังแขนมาก

ใครที่กำลังคิดจะไปเสริมหน้าอกเพิ่มคัพล่ะก็ อย่าพึ่งคิดว่าผ่ามาแล้วจบ สวยเลยนะจ๊ะ จริงๆ แล้วการดูแลตัวเองหลังผ่าตัดเนี่ยมีความสำคัญในการรักษาทรวดทรงของหน่มน๊มมากเลยนะ และสิ่งที่เราจะขาดไปไม่ได้ก็คืออออ เสื้อชั้นในสำหรับคนทำนมยังไงล่ะ! ทำไมการใส่เสื้อชั้นในแบบซัพพอร์ตหลังทำหน้าอกถึงสำคัญ? ​​ลดอาการบวมหลังผ่าตัด ลดรอยช้ำห้อเลือด ​​​​​​​ช่วยให้หน้าอกเข้ารูปได้เร็วขึ้นกลับ  สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้เร็วขึ้น ช่วยให้ระบบไหลเวียนของเลือดดีขึ้นหลังการผ่าตัด ช่วยจัดทรง หน้าอกให้เข้าทรงทำให้หน้าอกชิดสวย ช่วยลดรอยแผลเป็นและช่วยลดแรงตึงของผิวลดการเสียดสีของแผลใต้ราวนม ถูกออกแบบมาให้เหาะสมกับสรีระ สามารถเคลื่อนไหวได้สะดวก ควรใส่นอนเพื่อป้องกันซิลิโคนออกด้านข้างทำให้หน้าอกชิด  ประคองหลังลดอาการปวดหลัง ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก คลินิก SLC CLINIC แล้วต้องเลือกสวมชั้นในแบบไหนล่ะ? มีขนาดความกว้างของบราพอดีพอเหมาะกับความกว้างของเต้านม ถ้าเลือกบราที่มีความกว้างน้อยเกินไป จะทำให้บีบหน้าอก ทำให้ ซิลิโคนลอยขึ้น หน้าอกไม่ได้รูปทรงที่สวยงาม เลือกบราที่ไม่มีโครง เพราะโครงเหล็กของบรา อาจจะไปดันซิลิโคนในหน้าอกให้ลอยขึ้น ทำให้ทรงหน้าอกดูไม่เป็นธรรมชาติ และยังอาจทำให้เกิดพังผืดอันไม่พึงประสงค์ได้อีกด้วย เลือกสวม Support Bra ไม่ใช่ Sport Bra สปอร์ตบราเหมาะสำหรับใส่ออกกำลังกายมากกว่า ในขณะที่ซัพพอร์ตบราคือบราที่ออกแบบมาเพื่อรองรับกับทรวงอกที่เพิ่งผ่านการผ่าตัดมาโดยเฉพาะ ในช่วง 1 – 2 เดือนแรก ควรสวมใส่ซัพพอร์ตบราตลอดเวลา ควรสวมใส่ทุกวัน ทั้งในช่วงเวลากลางวันและกลางคืนเพื่อให้หน้าอกเข้ารูป อยู่ทรง

การนวดหน้าอก ต้องพิจารณาเป็นเคสๆ ไป เช่นเดียวกับเทคนิคการผ่าตัด และซิลิโคนที่ใช้ ไม่ต้องซื้อคอร์ส ไม่ต้องเสียเงินแพงๆ ให้แฟนนวด น้องนวด แม่นวด หรือเรานวดเองก็ได้ ครั้งละ 3-5 นาที วันละ 2 ครั้ง หลังผ่าตัด 2-3 สัปดาห์ หรือเมื่อแผลหายดีแล้ว ทั้งนี้ไม่มีงานวิจัยยังที่ยืนยัน 100% ว่าการนวดหน้าอกจะแก้พังผืดได้ ขึ้นอยู่กับเทคนิคผ่าตัด และการเลือกซิลิโคนมากกว่า ส่วนการนวดนั้นนวดอาจช่วยได้ในเรื่องการไหลเวียนน้ำเหลือง หรือความยืดหยุ่นของเนื้อเยื่อ โดยยึดหลัก 3 ประการหลัก 1.ศัลยแพทย์ การผ่าตัดและติดตามผล จะทำให้คุณหมอประเมินได้ว่า เนื้อแบบไหน เคสแบบไหน ควรนวด หรือ บางท่านให้นวดทุกราย หรือ อาจไม่ต้องนวดเลย ขึ้นกับคำแนะนำส่วนบุคคลของแพทย์ 2.รุ่นซิลิโคน บ้างว่าผิวเรียบต้องนวด หรือ ผิวทรายหยดน้ำไม่ต้องนวด หรือ บางรุ่นไม่ต้องนวด ไม่จริงเสมอไป ขนาดรุ่นเดียวกัน แต่ใส่คนละขนาด หรือ คนละเทคนิคการผ่าตัด ยังอาจทำให้นวด/ไม่นวด ได้เลยฉะนั้นขึ้นอยู่กับการประเมิณของคุณหมอ