10 สเต็ป บำรุงผิวเช้า-เย็น เวอร์ชั่น K-Beauty
เคยสงสัยกันบ้างไหมคะ? ว่าทำไมสาวเกาหลีถึงได้มีผิวที่ดูสวยใส และฉ่ำวาว วันนี้เรามีทริค และสเต็ปการบำรุงผิวสไตล์ K-Beauty ตั้งแต่ขั้นตอนการทำความสะอาด ไปจนถึงการบำรุง มาดูกันสิว่ากว่าจะมีผิวเนียนใสระดับ 4K เค้ามีขั้นตอนอะไรบ้างนะ
STEP 1 : Cleansing สาวเกาหลีส่วนมากจะชอบใช้แบบเนื้อออยล์ หรือเนื้อบาล์ม เพื่อให้ง่ายต่อการนวดสิ่งสกปรกและเมคอัพออกจากผิว แนะนำให้ใช้ร่วมกับ Eye&Lip Makeup Remover เน้นที่ตาและปาก ซึ่งเป็นจุดที่เรามักลงเมคอัพมากที่สุด จากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุ่น และใช้ผ้าขนหนูซับเบาๆ
TRY : Clean It Zero Cleansing Balm สูตร Nourishing จาก Banila Co (1,090 บาท) กระปุกนี้เป็น 3 in 1 ที่ทั้งล้างเครื่องสำอาง เป็นคลีนซิ่งออยล์ โฟมคลีนเซอร์ เหมาะกับผิวแห้ง ช่วยทำความสะอาดเครื่องสำอางกันน้ำ และยังไม่ทำให้ผิวแห้ง ชุ่มชื่นตลอดแม้ล้างออกแล้ว
STEP 2 : Cleanser หลายคนจบที่ขั้นตอนแรกเลย บางคนติดทำความสะอาดด้วยโฟมล้างหน้า ให้เลือกสูตรที่อ่อนโยน ไม่ดึงความชุ่มชื่นออกจากผิว และเนื้อเป็นวิปโฟม เวลาล้างทำความสะอาดจะช่วยลดแรงเสียดสีที่เกิดจากมือ และผิวได้ค่ะ
TRY : Mild Soap A จาก Free Plus (100 กรัม 630 บาท) โฟมทำความสะอาดสูตรอ่อนโยน ไม่มีพาราเบน ไม่มีน้ำหอม ไม่มีแอลกอฮอล์ และสารที่ทำให้เกิดการระคายเคือง ช่วยขจัดสิ่งสกปรก คงความชุ่มชื่น ให้ผิวเนียนนุ่ม ดุจใยไหม ไม่แห้งตึง
STEP 3 : Exfoliate ขั้นตอนนี้มีไว้ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก แนะนำทำแค่สัปดาห์ละ 2 ครั้งก็พอ ช่วยให้ผิวสะอาด ดูกระจ่างใส ถือเป็นหนึ่งในขั้นตอนการทำความสะอาดแบบล้ำลึก แต่ถ้าดื้อทำบ่อย ผิวจะบางและเกิดการระคายเคืองได้ เตือนแล้วนะ
TRY : Jeju Volcanic Lava Pore Scrub Foam จาก The Face Shop (299 บาท) โฟมทำความสะอาดผิวที่มาพร้อมเม็ดสครับเนื้อละเอียด ช่วยขจัดสิวเสี้ยน สิ่งสกปรก และความมันที่อยู่บนผิว ให้ผิวยังคงความชุ่มชื่น ดูกระจ่างใส และเรียบเนียน ลงครีมบำรุงก็ซึมดี
STEP 4 : Toner สาวเกาหลีให้ความสำคัญกับขั้นตอนการทำความสะอาดมากๆ และยังเชื่อเรื่องการปรับสมดุลผิว จึงนิยมใช้โทนเนอร์เพื่อให้ผิวหน้ามีค่าเป็นกลาง ช่วยลดการเกิดสิวและริ้วรอย พร้อมกระชับรูขุมขน ส่งผลทำให้ครีมในขั้นตอนต่อไปซึมลงผิวได้ดีด้วยค่ะ
TRY : Rose Water Toner จาก Mamonde (250 มล. 750 บาท) โทนเนอร์ปรับสมดุลผิว อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปรับสภาพผิวให้ชุ่มชื่น มีความยืดหยุ่น มาพร้อมกลิ่นหอมอ่อนๆของกุหลาบ ที่ช่วยสร้างความผ่อนคลายแก่ผิว
STEP 5 : Essence หัวใจสำคัญอยู่ที่การลงเนื้อที่บางเบาก่อน บางแบรนด์จะเรียกผลิตภัณฑ์ในขั้นตอนนี้ว่าโลชั่น น้ำตบ มีหน้าที่ช่วยเติมความชุ่มชื่นให้กับผิว วิธีใช้คือตบเบาๆ ให้ผลิตภัณฑ์ซึมเข้าสู่ผิวช่วยกระตุ้นการไหลเวียน ให้ผิวที่กระจ่างใสขึ้น
TRY : Iris Extract Activating Treatment Essence จาก Kiehl’s (200 มล. 2,050 บาท) เอสเซ้นส์ดาวเด่นของแบรนด์ที่อัดแน่นด้วยส่วนผสมจากรากไอริสฟลอเรนตินา เป็นสูตรต่อต้านริ้วรอย ลดเลือนสัญญาณแห่งวัยต่างๆ ควรใช้เป็นขั้นตอนต่อจากโทนเนอร์ เนื้อจะซึมลงผิวอย่างรวดเร็ว ให้ผิวชุ่มชื่นและเข้าไปบำรุงทันที
STEP 6 : Serum ใครมีปัญหาตรงไหนให้ดูแลที่ขั้นตอนนี้ ไม่ว่าจะผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ มีริ้วรอย จุดด่างดำ เป็นสิว ขาดความกระชับ ดูไม่กระจ่างใส เลือกผลิตภัณฑ์ตามปัญหา และลงเซรั่มด้วยวิธีค่อยๆ กด Tap เน้นเฉพาะจุด มาถึงตรงนี้เริ่มเข้าใจหรือยังคะว่าทำไมสาวเกาหลีถึงลงหลายขั้นตอนได้โดยที่หน้าไม่เยิ้มและไม่อุดตัน
TRY : Vitamin Nectar Antioxidant Face Serum จาก Fresh (15 มล. 1,2000 บาท) เซรั่มผลไม้ที่มีกว่า 480,000 ไมโครบับเบิ้ล อุดมด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อผิว ให้ผิวกระจ่างใส กระปรี้ประเปร่า ดูมีออร่า และสุขภาพดี
STEP 7 : Sheet Mask สาวเกาชื่นชอบการใช้ชีสมาส์กมาก เค้าจะใช้เวลา 10-15 นาที รีเฟรชผิว สำหรับใครที่มีเวลาแนะนำให้ทำเป็นประจำ นอกจากจะช่วยให้ผิวดูชุ่มชื่นยังช่วยผ่อนคลายเหมือนผิวได้รีสตาร์ท แต่ไม่ควรทิ้งชีสมาส์กไว้บนผิวนานเกินไปนะคะ ชีสมาส์กจะดึงความชุ่มชื่นกลับ และเป็นการทำร้ายเซลล์ผิวได้ค่ะ
TRY : Dermask Soothing Hydra Solution Facial Mask จาก Dr Jart+ (140 บาท) ชีสมาส์กให้ความชุ่มชื่น สำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย มีส่วนผสมของ Aloe Vera ช่วยฟื้นบำรุงผิวแบบเร่งด่วน และลดการระคายเคืองจากแสงแดด มลภาวะที่เจอมาระหว่างวัน
STEP 8 : Eye Cream อายุผิวเค้าโชว์กันที่ตรงนี้แหละค่ะ บำรุงผิวบริเวณรอบดวงตาให้ชุ่มชื่นอยู่เสมอ ขณะลงอายครีมให้กดเบาๆ เริ่มจากหัวตาไปหางตา เพื่อช่วยให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น ไม่ให้ผิวรอบดวงตาแห้ง มีริ้วรอย ส่วนใครที่เป็นภูมิแพ้ ควรพบแพทย์ขอคำแนะนำ และเลือกอายครีมที่ให้ผลลัพธ์โดยเฉพาะ
TRY : Power 10 Formula VC Eye Cream จาก It’s Skin (30 มล. 890 บาท) เนื้อครีมบางเบาไม่เหนียวเหนอะหนะ อัดแน่นด้วยส่วนผสมของวิตามินซี ที่ช่วยมอบความชุ่มชื่น คืนความกระจ่างใส และเพิ่มความกระชับให้ผิวรอบดวงตา
STEP 9 : Moisturizer ในขั้นตอนนี้จะเลือกมอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อเติมน้ำให้ผิว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่น ซึ่งจะเป็นเนื้อเจล เนื้อครีม หรือครีมเข้มข้นได้หมด แนะนำให้วอล์มครีมที่มือ และค่อยๆ กด Tap ให้ทั่วใบหน้า จะไม่ใช้วิธีโป๊ะหนักๆ นอกจากจะช่วยลดการมันเยิ้ม ยังให้ผิวดูฉ่ำวาวขึ้นด้วยค่ะ
TRY : Hyaluronic Marine Oil-Free Moisture Cushion จาก DR.Dennis Gross (50 มล. 2,915 บาท) มอยเจอร์ไรเซอร์บำรุงผิวสูตร Oil-Free มีส่วนผสมของสาหร่ายทะเลในประเทศญี่ปุ่น และ Hyaluronic Acid ที่เพิ่มความชุ่มชื่น ช่วยเติมน้ำ กักเก็บ และล็อคมอยส์เจอร์ไรเซอร์ให้ผิวอิ่มน้ำยาวนานตลอดวัน
STEP 10 : Sunscreen หรือ Sleeping Mask ถ้าเป็นช่วงเช้าขั้นตอนนี้จะเป็นครีมกันแดด ที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB และเพื่อไม่ให้หนักผิวกินไป แนะนำเนื้อลิควิดที่บางเบา ส่วนกลางคืนจะเป็น Sleeping Mask เพื่อเติม กักเก็บ และล็อคความชุ่มชื่นให้ยาวนานตลอดคืนนั่นเอง
TRY : UV Water Serum SPF50+ PA+++ จาก Mizumi (890 บาท) กันแดดเนื้อเซรั่ม ไม่มีสารเคมี อุดมไปด้วยส่วนผสมจากแร่ธาตุธรรมชาติ ที่ให้ค่าการปกป้องสูง ความพิเศษอยู่ที่เนื้อไม่เหนอะหนะ ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีน้ำหอม ไม่มีสารพาราเบน และ สีสังเคราะห์ ปลอดภัยกับทุกสภาพผิว
TRY : Jeju Pomegranate Revitalizing Capsule Sleeping Pack จาก Innisfree (70 มล. 680 บาท) สลีปปิ้งมาส์กสูตรน้ำทับทิม และเมล็ดทับทิมจากเกาะเชจู ช่วยให้ความชุ่มชื่นกับผิว พร้อมป้องกันริ้วรอยก่อนวัย ความพิเศษอยู่ที่ส่วนผสมทั้งหมดอยู่ในเนื้อที่มีแคปซูลเม็ดเล็กๆ ซึ่งจะออกฤทธิ์ทันทีเมื่อลงสู่ผิว
เป็นยังไงบ้างคะ? สเต็ปการบำรุงผิวแบบสาวเกาหลี สาวๆสามารถเอามาปรับใช้กับการบำรุงผิวที่เหมาะสมกับสภาพผิว และอากาศในบ้านเราได้ หรือใครที่อยู่ในห้องแอร์ตลอดเวลาการบำรุงตามนี้ก็จะช่วยเก็บความชุ่มชื่นให้ผิวได้ดี แต่ถ้าใครต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งอาจจะต้องปรับลดบางขั้นตอน และเพิ่มส่วนของการลงครีมกันแดดด้วยเนื้อและคุณสมบัติปกป้องได้ดียิ่งขึ้น ที่สำคัญก่อนจะลงขั้นตอนต่อๆไป ต้องให้ครีมบำรุงนั้นซึมสู่ผิวเสียก่อน แค่นี้การมีผิวสวยในสไตล์เกาหลีไม่ยากอย่างที่คิด