Uncategorizedฝันบอกสุขภาพ ช่วงนั้นได้ เมื่อคืนฝันว่าอะไรกัน? หรือเครียดอยู่รึเปล่า

ฝันบอกสุขภาพ ช่วงนั้นได้ เมื่อคืนฝันว่าอะไรกัน? หรือเครียดอยู่รึเปล่า

ฝันบอกสุขภาพ ได้อย่างไร? เพราะฝันเป็นหนึ่งในการแสดงออกทางความคิด ความเครียด ความกังวลที่อาจมาผสมกับจินตนาการหรือประสบการณ์ที่เคยผ่านการทำงานของสมอง จึงเป็นเรื่องที่บอกได้เบื้องต้นถึงภาวะของจิตใจ สุขภาพเรา ณ ขณะช่วงนั้นได้บ้าง แต่ทั้งนี้ถ้ามีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย ควรปรึกษาแพทย์อีกครั้ง

ไม่แปลกถ้าเราฝันหลายๆ เรื่องใน 1 คืน เพราะตามข้อมูลของ National Sleep Foundation มันมีความเป็นไปได้อย่างมาก แต่ส่วนใหญ่เราจะลืมไปเกือบหมดในช่วงตื่น แต่ก็อาจมีเรื่องที่เราจำได้อยู่บ้างเช่นกัน ซึ่งมักเป็นฝันในช่วงที่เรียกว่า REM (rapid eye movement) นั่นเอง

ฝันบอกสุขภาพ กับความฝันแต่ละแบบ

ฝันทั่วไป (Stardard Dream) ไม่ดีไม่ร้าย เป็นการฝันทั่วๆ ไป ไม่ถึงกับเป็นความฝันร้ายจนต้องสะดุ้งตื่น มีความใกล้เคียงกับชีวิตประจำวันปกติ ฝันภาพชัด อาจเกี่ยวข้องกับเรื่องที่กำลังคิดหรือเครียดเล็กน้อย ซึ่งถ้าอยู่ในระดับปกติไม่กระทบกับการนอนตลอดทั้งคืน อาจบ่งบอกได้ว่าช่วงนั้นเราอาจจะมีเรื่องไม่ค่อยดีหรือกังวลอยู่บ้าง เป็นเหมือนการที่สมองกำลังจัดการอารมณ์ของเรานั่นเอง ไม่มีอะไรน่ากังวล ในบางคนที่กำลังมีความรักก็อาจฝันว่าอกหักเพราะความกลัวจะเสียเค้าไปก็เป็นไปได้ทั้งนั้น

ฝันร้าย (Nightmare) ให้นึกถึงเวลาเราดูพวกหนังไล่ล่า หนีเอาตัวรอด ฝันร้ายจะเป็นแนวๆ นั้น รวมถึงคนที่ชอบฝันว่าตกจากที่สูงด้วยเช่นกัน ทำให้เมื่อเราตื่นยังจำเรื่องราวนั้นได้บ้าง หรือมีความรู้สึกอยู่ เช่น โกรธ กลัว โมโห กังวล แต่เดี๋ยวก็จะหายไปเอง ซึ่งถ้าไม่ได้เป็นบ่อย ไม่ถึงกับกระทบการนอนหลับที่ดี ก็พยายามหาอะไรคลายเครียดหรือเลี่ยงการดูหนัง การฟังเรื่องน่ากลัวก่อนนอน

หากเราฝันลักษณะแบบนี้ก็มีหลายปัจจัยที่อาจบอกได้ถึงสุขภาพ เช่น คุณกำลังเผชิญภาวะเครียด วิตกกังวล หรือกำลังไม่สบาย รวมถึงผู้ที่ทานยาบางชนิด ใช้สารเสพติดหรือดื่มแอลกอฮอล์ ทานอาหารที่ย่อยยาก ก็มีสิทธิ์ฝันร้ายได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นการไม่กินช่วงก่อนนอน ก็ช่วยได้

ฝันร้ายซ้ำๆ (Recurring Nightmare) ซึ่งต่างจากการฝันร้ายปกติที่เราอาจไม่ฝันบ่อยหรือฝันซ้ำ แต่ถ้าเราฝันคล้ายๆ โครงเรื่องเดิมบ่อยๆ ค่อนข้างถี่ หรือวนแต่เรื่องเดิมเลย อันนี้ควรหาสาเหตุเพื่อไม่ให้กระทบต่อสุขภาพในอนาคต เพราะเมื่อฝันร้ายซ้ำๆ แน่นอนว่าช่วงตื่นเราจะอารมณ์ไม่ดี หรือเกิดการหงุดหงิดได้

สาเหตุที่อาจทำให้เราฝันร้ายซ้ำๆ เป็นไปได้ว่า เกิดจากภาวะซึมเศร้า เก็บกดกังวล รวมถึงการมีแผลทางใจต่างๆ จนส่งผลมาถึงตอนโตเมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ได้ การใช้ยา และสารเสพติดในปริมาณมากด้วยเช่นกัน นอกจากนี้คนที่มีภาวะผิดปกติเกี่ยวกับการนอนหลับ ก็มีโอกาสเกิดฝันลักษณะนี้ได้

วิธีแก้ไขคือ การได้เล่าหรือระบายเรื่องเครียดกับคนใกล้ชิดก็ช่วยได้เบื้องต้น และลองปรับพฤติกรรม เช่น เลี่ยงสารเสพติด สูบบุหรี่จัด ดื่มแอลกอฮอล์หนัก หรือดื่มกาแฟ น้ำอัดลมก่อนนอน เพราะมีทั้งคาเฟอีน และนิโคติน ไม่เล่นโซเชียลหรือจับโทรศัพท์ก่อนนอน งดเสพสื่อกระตุ้นอารมณ์เครียด กังวลเพิ่มเติม

ฝันผวา (Night Terror) อันนี้ชัดว่า ฝันอยู่แล้วเกิดสะดุ้งตื่น บางคนถึงขั้นร้องไห้ กรี๊ดก็มี หรือตะโกนออกมาไม่รู้ตัว ซึ่งกรณีนี้เกิดได้บ่อยในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ ถ้าในผู้ใหญ่มักเกิดในช่วงที่เราใกล้จะหลับสนิท ภาวะนี้ถ้าไม่เกิดขึ้นบ่อย ถือว่าไม่น่ากังวล แต่ถ้าเป็นบ่อยขึ้น ตื่นมาแล้วรู้สึกล้า เหงื่อไหล หายใจลำบาก เหมือนคนนอนไม่เต็มอิ่ม หรือคนนอนข้างๆ ต้องตื่นตลอดทุกครั้ง อันนี้ควรปรึกษาแพทย์ เพราะมันอาจเกี่ยวกับความผิดปกติของการนอน ไม่ใช่ฝันตามอารมณ์ทั่วไป คุณอาจจะมีภาวะสุขภาพจิตบางอย่างก็เป็นไปได้ หรือปัญหาเกี่ยวกับทางเดินหายใจ

นอกจากนี้ผู้ที่อดนอนบ่อยๆ ดื่มแอลกอฮอล์ มีอาการเจ็บป่วย ใช้งานเสพติดก็มีโอกาสฝันผวาได้ ให้ลองสังเกตตัวเองและเลี่ยงหรือบรรเทาพฤติกรรมเสี่ยงลง

ฝันติดตา (Vivid Dream) สังเกตง่ายมากว่าเมื่อคืนเราเกิดฝันแบบติดตาหรือไม่? เพราะฝันติดตาเรามักจะจำเรื่องราวหรือบางเหตุการณ์ในฝันได้ชัดเจนในขณะที่ตื่น จะฝันดีหรือฝันร้ายก็ได้ สาเหตุอาจเกิดจากความเครียด ตื่นเต้นกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น เช่น ได้งานใหม่ ใกล้ถึงวันแต่งงาน ฯลฯ หรือแม้แต่คุณแม่ตั้งครรภ์ช่วงแรกๆ ก็ฝันลักษณะเช่นนี้ได้

แต่ก็เป็นไปได้ที่มาจากการนอนไม่เป็นเวลา การใช้ยาสารเสพติด ซึ่งฝันแบบนี้ถ้าไม่กระทบต่อการทำงานในชีวิตประจำวัน เราสามารถจัดการได้เบื้องต้นอย่างการนอนเป็นเวลามากขึ้น อย่าวิตกกังวลหรือเครียดมากไป แต่ถ้าฝันนี้ทำให้เราเป็นทุกข์ เสียสมาธิ อารมณ์ไม่ดี แนะนำให้ปรึกษาแพทย์จะดีที่สุดจ้า

สรุปง่ายๆ เลย ไม่ว่าเราจะฝันแบบไหน ถ้ากระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน จนอาจส่งผลต่อจิตใจและสุขภาพ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อป้องกันและลดโอกาสเกิดโรคทางสุขภาพจิต โรคเกี่ยวกับการนอนหลับ และโรคเกี่ยวกับระบบหายใจได้นั่นเอง

แหล่งข้อมูล: healthline, dmh

บทความที่เกี่ยวข้อง

เนื้อหาใหม่ล่าสุด

More article