ร้อยไหมมีกี่แบบ แตกต่างกันอย่างไร?
ปัญหาหน้าเหี่ยวหย่อนคล้อยนี่มันน่ากลัวจริงๆ แต่ยังโชคดีที่โลกนี้มีสิ่งที่เรียกว่าการร้อยไหมอยู่ แต่ทุกคนเคยรู้กันรึเปล่าว่าไหมที่ใช้ร้อยหน้าเราเนี่ยมันมีกี่แบบ แล้วแต่ละแบบแตกต่างกันยังไง วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักประเภทของไหมละลายกัน!
จริงๆ แล้วไหมมีกี่แบบกัน?
ประเภทของส้นไหมที่ใช้ร้อยไหม สามารถแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักๆ คือ
ไหมไม่ละลาย
ทำจากพลาสติกหรือโลหะ ไม่สามารถละลายหายไปเองได้ เช่นไหมพลาสติกพอลิโพรไพลีน (Polypropylene) หรือ ไหมทองคำ (Gold Thread) แต่ในปัจจุบันไม่ค่อยได้รับความนิยมแล้ว เนื่องจากมีผลข้างเคียงหลายอย่าง และในกรณีของไหมทองคำก็มีราคาสูง อาจเกิดอาการแพ้ และหลังทำยังไม่สามารถทำเลเซอร์หรือทรีทเม้นท์ที่ต้องสัมผัสความร้อนได้ด้วย
เป็นไหมที่ผลิตจากสารสังเคราะห์ ที่สามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ วัสดุที่นิยมนำมาทำไหมละลายได้แก่ PDO (Polydioxanone) PCL (Polycaprolactone) PLLA (Polylactate) และ PGA (Polyglycolic Acid) ซึ่งเราสามารถแบกประเภทของไหมละลายออกมาอีกได้หลายชนิด ได้แก่
ไหมเรียบ (Mono threads)
เป็นไหม PDO ลักษณะเส้นเรียบ ไม่มีเงี่ยงหรือเกลียว มักจะร้อยในชั้นตื้นๆ โดยหวังผลในการสร้างคอลลาเจนมากกว่า อาการบวมหลังจากการร้อยไหม ทำให้รู้สึกใบหน้าดูเต่งตึงขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ จึงไม่ค่อยได้รับความนิยมแล้วในปัจจุบัน เหมาะกับคนที่ไม่มีปัญหาหย่อนคล้อยแต่ผิวไม่กระชับ
ไหมเกลียว (Screw threads)
เป็นไหม PDO ลักษณะเป็นม้วนคล้ายสปริง มีความแข็งแรงกว่าไหมเรียบ อาจเป็นเส้นเดียวหรือสองเส้นพันกัน เกลียวของไหมช่วยเพิ่มปริมาตรบริเวณที่ผิวหนังยุบเป็นแอ่ง และสามารถช่วยยกกระชับผิว เหมาะกับคนที่ผิวหย่อนคล้อยไม่มาก สามารถใช้เสริมไหมตัวอื่นได้
ไหมเงี่ยง (Barbed threads หรือ Cog threads)
ลักษณะเป็นเส้นคล้ายก้างปลา ดึงผิวให้ยกขึ้นได้ดี ช่วยลดความหย่อนคล้อยของใบหน้า มีหลายชื่อเรียก เช่น ไหมก้างปลา หรือไหมกุหลาบ เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวหนังหย่อนยาน ในระดับอายุยี่สิบปลายๆ หรือต้องการปรับรูปหน้า สร้างวีเชฟ ยกเหนียง
ไหมปากฉลาม (Molding)
เป็นไหม PCL ที่มีเงี่ยงและลายสลัก พัฒนามาจากไหมเงี่ยง เพื่อให้เกาะกับผิวได้ดียิ่งขึ้น มักมีขนาดเส้นใหญ่กว่าไหมเงี่ยงทั่วไป เหมาะกับคนที่มีปัญหาหย่อนคล้อยเยอะ ตั้งแต่วัยสามสิบห้าเป็นต้นไป
ไหมกรวย (Silhouette soft)
เป็นไหม PGA ลักษณะมีปมกลมๆ ตามแนวเส้นไหม และมีพลาสติกทรงกรวยเล็กๆ อยู่ระหว่างปมของเส้นไหม จับเนื้อเยื่อได้มากขึ้น โดยไม่ทำให้เนื้อเยื่อภายในบาดเจ็บมาก ช่วยยกกระชับผิวมากกว่าการสร้างคอลลาเจน ไม่เกิดความระคายเคือง อยู่ได้ 1-3 ปี แต่ใช้เวลาในการทำนาน แต่อาจปวดและมีอาหารบวมหลังทำ เหมาะกับคนที่มีความหย่อนคล้อยมากตั้งแต่ชั้นกล้ามเนื้อ อย่างคนวัยสี่สิบห้าเป็นต้นไป
ไหม PLLA
ลักษณะคล้ายไหมเงี่ยง แต่มีสีขาวใส ไม่ค่อยยืดหยุ่น จึงไม่ค่อยนิมยมมากนัก เพราะมีปัญหาขาดหักง่าย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Charmer Clinic , Roselin Wellness Center และ V Square Clinic