วิตามินเสริม สำหรับวัยทำงาน ต้องแก๊งนี้เลย
ถ้าพูดถึงวิตามินนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลักๆ โดยดูจากการละลายเพื่อนำไปใช้ในร่างกายคือ ละลายในน้ำ และละลายในไขมัน ซึ่งวิตามินจะได้จากอาหารที่เรารับประทานต่อวัน รวมถึงวิตามินเสริมที่ขายในร้านดรักสโตร์ทั่วไป
วิตามินที่ละลายได้ในไขมัน จะสะสมในร่างกาย และอาจมีผลต่อตับ,สมอง แลพไต หากได้รับเกินปริมาณ คือ วิตามิน A D E และ K
วิตามินที่ละลายได้ในน้ำ หากร่างกายได้รับเกินความจำเป็นก็จะขับออกมาเองได้เองทางปัสสาวะ จึงทานได้ทุกวัน โอกาสเสี่ยงในการสะสมน้อยมาก คือ วิตามิน B และ C
แต่วิตามินที่เราแนะนำว่าคนวัยทำงานสามารถทานเสริมจากอาหารหลักได้คือ วิตามิน A, B รวม, C และ E
วิตามิน A
เป็นวิตามินที่ละลายได้ในไขมัน จึงต้องใช้ไขมันและแร่ธาตุช่วยดูดซึมเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อร่างกาย และมักจะอยู่ในรูปแบบที่เราคุ้นเคยคือ ตัวเรตินอล และแคโรทีน ช่วยทั้งบำรุงสายตา สำคัญต่อกระดูก ฟัน และเหงือก เพิ่มภูมิคุ้มกัน ป้องกันอาการป่วย นอกจากนี้ยังมีผลต่อผิวอีกด้วย โดยเฉพาะการลดรอยดำ รอยแผลต่างๆ
ปริมาณการทานต่อวัน: 4,000 – 5,000 IU ต่อวัน
วิตามิน B
เป็นวิตามินที่ช่วยเสริมให้ระบบในร่างกายทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถละลายในน้ำได้ จึงไม่เก็บสะสมและขับออกจากร่างกายหากรับเกิน ซึ่งมีมากถึง 10 ชนิด อย่างที่เราเคยได้ยิน เช่น B1, B2, B6, B12 ฯลฯ และบางครั้งวิตามินเสริมตามท้องตลาดก็จะมีปริมาณวิตามินบีแต่ละชนิดต่างกันไป หรือที่เราเรียกว่าวิตามินบีรวม ซึ่งถ้าพูดกันรวมๆ จะช่วยเรื่องบำรุงสมอง ลดความเครียด ลดกังวล สมองปลอดโปร่ง และรู้สึกตื่นกระปรี้กระเปร่า
ปริมาณการทานต่อวัน: 300-400 มิลลิกรัม
วิตามิน C
อีกหนึ่งวิตามินที่ละลายในน้ำได้ และยังเป็นที่นิยมของสาวๆ เพราะช่วยเรื่องผิวพรรณได้ดี รวมถึงคอลลาเจน เนื่องจากวิตามินชนิดนี้ร่างกายไม่สามารถสร้างได้เอง ต้องรับประทานจากอาหารเสริมเข้าไป และมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ส่งผลต่อเนื้อเยื่อ และเซลล์ในร่างกาย นอกจากนี้จึงช่วย เพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย รวมถึงการดูแลสุขภาพตาอีกด้วย
ปริมาณการทานต่อวัน: 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน
![Nutraceutical โภชนเภสัช] D-Alpha Tocopheryl Acetate :วิตามินอี (Vitamin E) วิตามินอี (Vitamin E) แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1. โทโคเฟอรอล (Tocopherol) 2. โทโคไตรอีนอล (Tocotrienols) วิตามินอี เป็นหนึ่งในวิตามินที่ละลายในไขมันได้ดี](https://t1.blockdit.com/photos/2021/09/6131ff0b66ba780c3785821e_800x0xcover_9NoNKvCk.jpg)
วิตามิน E
มีความสำคัญต่อร่างกายไม่แพ้ชนิดอื่น เป็นตัวแอนตี้ ออกซิแดนท์ ป้องกันเซลล์เสื่อมสภาพ และเป็นตัวช่วยระบบกล้ามเนื้อ รวมถึงการช่วยบำรุงผิวพรรณได้เช่นกัน ในการต้านอนุมูลอิสระ ลดพวกริ้วรอยก่อนวัย ชะลอความแก่ได้ และซ่อมแซมการสึกหรอของเส้นผม ผิว และเล็บ นอกจากนี้หากใครมีอาการอ่อนเพลียประจำ วิตามินอีก็ช่วยได้เช่นกัน
ปริมาณการทานต่อวัน: 100 – 1,500 IU ต่อวัน
แนะนำ: ปริมาณการทานขึ้นอยู่กับเพศ อายุ และคำแนะนำของแพทย์ รวมถึงการทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ก็ช่วยเพิ่มวิตามินได้เช่นกันนะจ้า
