สีประจำเดือนบอกโรค สีเมนส์ที่เปลี่ยนไป บอกอะไรอยู่
หลายคนอาจจะเคยได้ยินมาว่าเวลาทำงานเครียดๆ ย่อมส่งผลต่อการมีประจำเดือนที่ไม่ปกติด้วย ขอบอกเลยว่ามีส่วนนะคะ แต่นอกจากต้องระวังเรื่องอารมณ์แล้ว สีของประเดือนเองก็สามารถบอกอะไรเราได้เหมือนกันนะ มาสังเกตกันดีกว่าเมนส์รอบล่าสุดของเรากำลังส่งสัญญาณเตือนอะไรรึเปล่า?
ประจำเดือนมีสีแดงสดหรือสีแดงคล้ำ
สีประจำเดือนสีแดงสดเป็นสัญญาณที่ดี บ่งบอกถึงว่าเรามีสุขภาพที่ปกติแข็งแรง แต่ก็เป็นภาวะปกติมากๆ หากในช่วงสามวันแรกของประจำเดือน เราจะมีประจำเดือนสีเข้มคล้ำ เพราะอาจเป็นช่วงที่เลือดประจำเดือนออกมามาก โดยในช่วงนี้อาจจะมีอาการปวดท้องประจำเดือนร่วมด้วยเล็กน้อย เนื่องจากมดลูกมีการหดรัดตัวเพื่อให้เลือดหยุด ซึ่งเป็นกลไกตามธรรมชาติเพื่อไม่ให้ร่างกายเสียเลือดมากเกินไป แต่หากมีประจำเดือนสีคล้ำนานเกินไป อาจต้องระวังการมีปัญหาผังผืดมดลูกได้
ประจำเดือนสีน้ำตาลเข้ม
ต้องขอบอกก่อนว่าการมีประจำเดือนหนึ่งครั้งสีของประจำเดือนของเราสามารถมีการเปลี่ยนแปลงได้ เช่นว่าในช่วงวันแรกๆ ประจำเดือนของเราอาจมีสีแดงสด ในขณะที่วันหลังๆ ประจำเดือนอาจเปลี่ยนเป็นสีแดงคล้ำไปจนถึงน้ำตาลเข้มได้ เป็นเพราะบางครั้งเลือดออกมาแล้ว อาจตกค้างอยู่ในโพรงมดลูกหรือช่องคลอด จากที่เป็นสีแดงสดจึงเปลี่ยนเป็นสีคล้ำนั่นเอง
ประจำเดือนสีชมพู ส้ม และเทาปนเขียว ต้องสังเกต!
การมีประจำเดือนสีชมพู เป็นเพราะเลือดประจำเดือนผสมกับสารคัดหลั่งภายใน ซึ่งอาจเกิดจากการมีบาดแผลภายใน หรือเราอาจจะกำลังอยู่ในสภาวะที่ระดับฮอร์โมนแปรปรวนนั่นเอง ในขณะที่การมีประจำเดือนสีส้มเป็นสภาวะที่ต้องระวังเป็นพิเศษ! เพราอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อภายในช่องคลอด ยิ่งหากมีกลิ่นเหม็นอับร่วมด้วย อาจต้องรีบปรึกษาแพทย์นะคะ ท้ายสุดหากสาวๆ มีเลือดประจำเดือนเป็นสีเทา สีออกปนเขียว ๆ มีลักษณะข้น โดยมีอาการกร่วมการบตกขาวมาก ปวดท้องน้อย และมีไข้ นี่อาจป็นอาการบ่งบอกถึงการติดเชื้อในอุ้งเชิงกรานได้ค่ะ
ประจำเดือนในแต่ละรอบ ไม่ควรเกิน 80 ซีซี หรือสังเกตได้จากจำนวนผ้าอนามัยที่ใช้ หากผ้าอนามัยเปียกชุ่มและต้องเปลี่ยนทุกๆ 2 – 3 ชั่วโมง ถือว่าเป็นผู้มีประจำเดือนมากปกติ แต่หากต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยทุกชั่วโมงตลอดช่วงมีประจำเดือนหรือมีประจำเดือนนานกว่า 8 วัน จะถือว่าผิดปกติ อาจเกิดจากการติดเชื้อ เลือดจาง ฮอร์โมนไม่สมดุล หรือเกิดเนื้องอกมดลูก ในขณะเดียวกันใครที่มีประจำเดือนน้อยมากๆ มาแบบกะปริดกะปรอยตลอดทั้งเดือน ก็ควรปรึกษาแพทย์เช่นกัน
อาการปวดท้อง
การปวดท้องประจำเดือนเป็นอาการที่พบได้เป็นปกติ เกิดจากการหลั่งสาร โพรสตาแกลนดิน (prostaglandin) ซึ่งมีผลทำให้กล้ามเนื้อบีบตัวและหดเกร็ง คล้ายภาวะเจ็บปวดขณะคลอดบุตร แต่หากร่างกายหลั่งสารปริมาณมากเกินไป อาจทำให้รู้สึกปวดรุนแรง หรืออาจมีอาการคลื่นไส้และท้องเสียร่วมด้วย หากเป็นบ่อย หรือป็นเกือบทุกครั้งที่มีประจำเดือน อาจตั้งข้อสังเกตได้ว่าเยี่อบุมดลูกเจริญผิดที่หรือมีเนื้องอกในมดลูก
รอบประจำเดือน
ประจำเดือนควรมีระยะห่างกันประมาณ 28 วัน (บวกลบไม่เกิน 7 วัน) โดยแต่ละรอบควรมาเวลาใกล้เคียงกัน หากประจำเดือนขาดหายบ่อยๆ หรือมาถี่กว่าปกติ มีเมนส์เดือนละ 2-3 ครั้ง อาจแสดงถึงระดับฮอร์โมนในร่างกายที่ไม่สมดุล หรืออาจเกิดโรคภายในอวัยวะสืบพันธุ์ ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
https://bit.ly/3h9Vniw
https://bit.ly/3k3KoZP
https://bit.ly/3k3rEd0
