ศัลยกรรมเช็คลิสต์ 6 ข้อ เตรียมตัวให้พร้อม ก่อนศัลยกรรม! | ศัลยกรรมพลิกชีวิต

เช็คลิสต์ 6 ข้อ เตรียมตัวให้พร้อม ก่อนศัลยกรรม! | ศัลยกรรมพลิกชีวิต

เช็คลิสต์ 5 ข้อ เตรียมตัวให้พร้อม ก่อนศัลยกรรม!

5 ข้อควรรู้ ก่อนทำศัลยกรรมครั้งแรก

ใครที่ตัดสินใจได้แล้วว่ากำลังจะสวยด้วยมือหมอ เรามีเช็คลิสต์การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนการศัลยกรรม 5 ข้อมาฝาก ข้อห้ามอะไร ต้องงดอะไร นานแค่ไหนบ้าง แค่ทำตามนี้รับรองว่า สวยด้วยปลอดภัยด้วยแน่นอนค่ะ

เราควรต้องตรวจสุขภาพก่อนเข้ารับการศัลยกรรมเพื่อประเมินความพร้อม และจะได้ทราบหากมีข้อจำกัดด้านสุขภาพ เพื่อให้การผ่าตัดเป็นไปอย่างปลอดภัยที่สุด โดยเฉพาะคนที่มีภาวะความเสี่ยงอย่าง อายุมาก หรือการมีประจำตัวต่างๆ เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ เบาหวาน ต้องแจ้งอาการพร้อมกับยาที่ใช้ประจำ รวมถึงโรคที่มีความเกี่ยวข้องกับระบบการหยุดเลือด หรือมีภาวะเลือดหยุดยาก จำเป็นต้องแจ้งให้แพทย์ทราบล่วงหน้านะคะ ร่วมถึงกำหนดการมีประจำเดือนด้วยนะคะเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้ารับการผ่าตัดขณะตั้งครรภ์โดยที่ไม่รู้ตัว

1.การเลิกใช้ยาบางชนิด

หากคุณกำลังใช้ยาใดๆ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อดูว่าควรเลิกยานั้นก่อนการศัลยกรรมหรือไม่ และห้ามหยุดยาโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์

2. งดบุหรี่ก่อนและหลังการศัลยกรรม

ก่อนจะเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรม เราขอแนะนำให้งดการสูบบุหรี่อย่างน้อย 4 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด และอีก 4 สัปดาห์หลังจากผ่าตัด เนื่องจากในบุหรี่มีสารที่ทำให้เซลล์ซ่อมแซมตัวเองจากการผ่าตัดได้ช้าลง เลือดมาหล่อเลี้ยงบริเวณแผลได้น้อย ทำให้แผลหายช้าได้ค่ะ อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสเสี่ยงในการติดเชื้อด้วย

3. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

นอกจากงดบุหรี่แล้ว เรายังขอแนะนำให้งดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮล์อย่างน้อยที่สุด 1 วันก่อนวันผ่าตัด และงดดื่มอย่างน้อย 1 – 2 อาทิตย์หลังการผ่าตัด

4. หยุดยาและอาหารเสริม

อีกหนึ่งลิสต์ของต้องงดก่อนทำศัลยกรรมก็คือ ยาและอาหารเสริม โดยเฉพาะกลุ่มที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เพราะอาจส่งผลกระทบต่อการผ่าตัดได้ เช่น แอสไพริน และวิตามินเสริมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น วิตามินอี น้ำมันปลา เมล็ดองุ่น ใบแปะก๊วยหรือโสม โดยควรงดยาและอาหารเสริมอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด

5. งดการแต่งหน้าไปศัลยกรรม

สำหรับข้อนี้ เอาเป็นว่าเรารอไปสวยทีเดียวหลังทำศัลยกรรมเสร็จเลยแล้วกัน ตอนมาผ่าขอแนะนำให้งดแต่งหน้ามาจะดีกว่า รวมถึงงดทาโลชั่น และทาเล็บมือ เล็บเท้าด้วยนะคะ ทั้งนี้ก็เพื่อให้เครื่องจับชีพจรสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพนั่นเองค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Masterpiece Hospital

บทความที่เกี่ยวข้อง

เนื้อหาใหม่ล่าสุด

More article