ไล่ลำดับการแก้ปัญหาผมร่วง ถ้าเป็นแบบนี้ต้องดูแลอย่างไร
มาเช็คตัวเองกันว่าตอนนี้กำลังอยู่ในสถานการณ์ไหน ร่วงแค่ตอนสระผม ร่วงตอนหวีผม ร่วงตอนเอามือสาง หรือ แค่จับก็ร่วงแล้ว อาการไหนน่าเป็นห่วงและต้องดูแลอย่างไร เรามีคำตอบ
ก่อนอื่นมารู้วงจรเส้นผมกันสักนิด ถ้าไม่ได้ผิดปกติได้ไม่เครียดจนผมร่วง ที่บอกแบบนี้เพราะมีหลายคนวิตกกังวลเมื่อหวีผมหรือสระผม แล้วเห็ผมร่วงที่พื้น หรือท่อน้ำระบายน้ำในห้องน้ำ จะบอกว่าถ้าคุณสระผม หรือหวีผมแล้วผมร่วงวันละ 50-100 เส้น ให้คิดว่าเป็นเรื่องปกติ อย่างข้อมูลจากสมาคมแพทย์ผิวหนังยังได้บอกไว้ว่า ในวันที่เราสระผม มีโอกาสผมร่วงได้มากถึง 200 และ ทั้งศีรษะเรามีเส้นผมประมาณ 100,000-150,000 เส้น ซึ่งจะมีขนาดเส้นใหญ่ เส้นเล็ก ตรงหรือหยิก ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ และกรรมพันธุ์ ทั้งนี้ขนาดของเส้นผมก็ยังมีผมต่อความรู้สึกหนาบางด้วยเช่นกัน ในบางคนที่มีผมเส้นเล็ก แต่ปริมาณเส้นผมเท่ากับคนผมเส้นใหญ่ อาจรู้สึกผมบางกว่าเพราะเนื้อผมน้อยกว่านั่นเอง
ฉะนั้นการจะบอกว่าตัวเองผมหนา หรือ ผมบาง ต้องเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล แต่ถ้าพูดถึงผมร่วงแล้วเราจะเช็คได้ตามปริมาณที่ร่วงในแต่ละวันดังนี้
STEP 1 ร่วง 50-100 เส้น/วัน แก้ด้วย : ผลิตภัณฑ์ลดผมร่วง เป็นการร่วงที่ถือว่าไม่ได้ผิดปกติใดๆ สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่ถ้ากังวลให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสม ลดการขาดหลุดร่วงของผม และเสริมความแข็งแรงให้หนังศีรษะ อย่างแชมพู ครีมนวด และผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม ที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ เหมาะกับหนังศีรษะอ่อนแอ บอบบางแพ้ง่าย
STEP 2 มากกว่า 100 เส้น/วันแก้ด้วย : อาหารเสริม แนะนำวิตามิน C, E, B2, B5, B6, B8 และ Zinc ช่วยบำรุงรากผมเดิมให้แข็งแรง ไม่ว่าจะอาหารที่เราทานทุกวัน เลือกที่มีวิตามินช่วยบำรุงเส้นผม หรืออาหารเสริมในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน จะช่วยลดอาการขาดหลุดร่วงของเส้นผมเดิม และสร้างความแข็งแรงให้เส้นผมที่ขึ้นใหม่
STEP 3 ร่วงตลอด จับกี่ทีก็ร่วงแก้ด้วย : PRP Treatment PRP คือ ทรืทเม้นท์ ที่ค่อนข้างปลอดภัย เพราะใช้การปั่นเกล็ดเลือดตัวเอง และฉีดกลับเข้าไปที่หนังศีรษะเพื่อกระตุ้นการทำงานของเซลล์รากผม ให้ทำงานได้ดีขึ้น จากรากผมที่หยุดทำงาน พอได้รับการกระตุ้นจะกลับมาทำงานใหม่ หรือรากผมใหม่ก็จะทำงานได้อย่างดี คล้ายเราช่วยเสริมประสิทธิภาพเซลล์หนังศีรษะให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง
STEP 4 เริ่มเห็นหนังศีรษะแก้ด้วย : ปลูกผมการปลูกผมถาวรมีหลายวิธี หลายเทคนิคตามแต่ละแพทย์ ซึ่งเป็นวิธีที่ได้ผลดีที่สุด แต่ค่าใช้จ่ายก็สูงกว่า 3 วิธีแรก ทั้งยังต้องใช้เวลาและการดูแลอย่างดีในช่วงการปลูกผม แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ว่าอาการของเราในตอนนี้สามารถปลูกผมได้หรือยัง หรือ แค่รักษาด้วยวิธีอื่นๆ ก่อนก็สามารถช่วยได้ ทว่าควรเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ คลินิก หรือโรงพยาบาลมีความน่าเชื่อถือ สะอาด ปลอดภัย ก็จะทำให้เรามั่นใจได้นั่นเอง