โบท็อกซ์ VS ผ่าตัดกล้ามเนื้อกรามเลือกทำอันไหนดี?
เชื่อว่าโบท็อกซ์คือหนึ่งในตัวช่วยที่หลายคนๆเลือกใช้เพื่อจัดการกับกรามใหญ่ ใบหน้าไม่ได้รูป แต่เมื่อเทคโนโลยีความงามพัฒนาไปเรื่อยๆไม่แพ้ผู้หญิงที่ไม่เคยหยุดสวย การผ่าตัดกล้ามเนื้อกรามจึงเข้ามาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการจัดการปัญหานี้เช่นกัน ซึ่งวิธีนี้กลายเป็นวิธีที่นิยมโด่งไม่น้อยที่เกาหลี ทำให้สร้างความสับสนให้หลายคนไม่น้อย ยิ่งจั่วหัวคุณสมบัติมาแล้วด้วยว่าช่วยกำจัดกล้ามเนื้อกรามได้แบบถาวรแล้วนั้น
ตกลงแล้วโบท็อกซ์ยังจำเป็นหรือไม่ แล้ววิธีการแบบไหนจะตอบโจทย์เราที่สุดมาค่ะเราสรุปมาให้แล้วแบบเข้าใจง่าย
การผ่าตัดกล้ามเนื้อกรามและโบท็อกซ์ต่างกันอย่างไร?
โบท็อกซ์
จะเป็นการฉีดเอาสารโบโลทูเนียมท็อกซินเข้าไปที่กล้ามเนื้อ เพื่อทำให้กล้ามเนื้อฝ่อตัวและยุบลง เพื่อช่วยให้ใบหน้าดูเล็กลงและได้รูปยิ่งขึ้น ซึ่งข้อจำกัดของโบท็อกซ์เห็นทีจะอยู่ที่เรื่องของระยะเวลาของผลลัพธ์ที่เป็นการมอบผลลัพธ์กึ่งถาวร เนื่องจากจะมีอายุอยู่เพียง 4-6 เดือนทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและการดูแลเฉพาะบุคคลด้วย (หากใครใช้กรามเยอะ เคี้ยวหมากฝรั่งบ่อยๆ หรือกินของเหนียว โอกาสที่จะทำให้โบท็อกซ์เสื่อมสภาพได้เร็วก็มีมากกว่า) อีกหนึ่งข้อควรระวังคือด้วยการเป็นทางเลือกปรับรูปหน้าพื้นฐานที่ได้รับความนิยมทำให้มีของลอกเลียนแบบอยู่เยอะในตลาด บางที่อาจจะไม่ได้ให้คุณหมอมาเป็นคนฉีด หรือใช้ยาเก่าที่คงเหลือจากคนไข้คนก่อน ดังนั้นทางที่ดีเราแนะนำให้เลือกคลินิกที่ได้มาตราฐานสามารถตรวจเช็คตัวยาที่จะฉีดได้ พูดถึงข้อจำกัดมาแล้วขอมาพูดถึงข้อดีกันบ้าง ข้อดีของโบท็อกซ์เลยก็คือเป็หัตถการที่ทำง่าย สามารถนัดคิวและเข้าไปทำและใช้ชีวิตต่อแบบปกติได้เลยแทบจะ 100% ไม่มีรอยแผล บวมช้ำน้อยมากและใช้เวลาทำไม่นาน ที่สำคัญคือราคาไม่สูงอยู่ที่หลักพันจนถึงหมื่นต้นขึ้นอยู่กับปริมาณและโปโมชั่นของคลินิกในช่วงนั้นๆ
การผ่าตัดกล้ามเนื้อกราม
แค่ชื่อก็พอรู้ได้ว่าเป็นกระบวนการที่ค่อนข้างยิ่งใหญ่มีความเสี่ยงเทียบเท่าการทำศัลยกรรมอื่นๆเพราะถึงอย่างไรก็เป็นการผ่าตัด อีกทั้งการผ่าตัดยังจำเป็นต้องมีระยะเวลาพักฟื้น และอาจเกิดการบวมช้ำได้ในช่วงสัปดาห์แรกหลังผ่าตัด และอาจจะยังไม่เห็นผลทันทีในช่วงแรกจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 1 เดือนขึ้นไป ส่วนข้อดีเลยคือเรื่องของผลลัพธ์ที่ช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อกรามได้แบบถาวร ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับใครที่อาจจะฉีดโบท็อกซ์มาตลอด ไม่อยากกลับไปคลินิกบ่อยๆ หรือใครที่ฉีดโบท็อกซ์มากเกินจนทำให้ดื้อยา การผ่าตัดกล้ามเนื้อกรามเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ
