กินส้มตำ ตกลงอ้วนไหม? คนลดน้ำหนักต้องสั่งให้ถูก
หลายคนเกิดความถกเถียงว่า ตกลงส้มตำที่ขึ้นชื่อว่า กินแล้วผอม มันผอมจริงไหม เพราะถ้าเทียบ 1 จาน แคลอรี่จะอยู่ที่ 40 – 130 แคลอรี่ ขึ้นอยู่กับเมนูที่เลือก จะเห็นว่าเลขแคลอรี่ไม่โหด แต่ทำไมคนที่เลือกทานทุกวันถึงน้ำหนักยังไม่ลด แถมยังดูตัวบวมไปอีก
ส้มตำหนึ่งจาน คนทานเจออะไรบ้าง
ถ้าจะให้รู้ชัดเราต้องชำแหละส้มตำออกเป็น 2 ส่วนที่เป็นส่วนผสม คือ
วัตถุดิบ – เราจะเห็นว่าในหนึ่งจานจะประกอบไปด้วยผักหลายชนิด โดยเฉพาะมะละกอดิบ ซึ่งถือว่าเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อย รวมไปถึงพวกผักอื่นๆ อย่างมะเขือเทศ ถั่วฝักยาว พริก มะนาว ซึ่งรวมๆ แล้วแต่ละชนิดก็มีประโยชน์ ทั้งในแง่กากใยสูง ต้านอนุมูลอิสระ สร้างภูมิคุ้มกันได้ ช่วยระบบเผาผลาญ ในส่วนนี้จึงดูมีประโยชน์มากกว่าโทษ
เครื่องปรุง – แน่นอนว่าจะมีรสชาติได้ก็ต้องใส่น้ำตาลปี๊ป ผงชูรส และน้ำปลา ซึ่งส่วนนี้แหละคือคีย์สำคัญเช่นกันว่าทำไมบางคนกินแล้วยังอ้วนดูตัวบวมอยู่ อย่างน้ำตาลปี๊ป 1 ช้อนชา ให้พลังงาน 18 กิโลแคลอรี แต่เราใส่ 1 ครกบางทีเกือบ 1 ทัพพีได้ ก็กลายเป็นเพิ่มแคลอรี่เข้าไป แต่ในขณะเดียวกันในกรณีของการใส่ผงชูรส ซึ่งถือเป็นโซเดียม การทานในปริมาณมากก็ยิ่งมีโอกาสทำให้ตัวบวมเพราะโซเดียมเยอะได้
นอกจากนี้ยังไม่รวมปูเค็ม ไข่เค็ม ปลาร้า ที่โซเดียมสูง และเนื้อสัตว์อย่างพวกกุ้ง ปลาแซลมอน หอย หมูยอ ซึ่งเนื้อสัตว์เหล่านี้ได้โปรตีนแต่แคลอรี่ก็เพิ่มไปนะ
คนลดน้ำหนักทานได้แต่ต้องสั่งให้ถูก
จะเห็นว่าส้มตำก็ยังมีประโยชน์ต่อร่างกายเรา แต่ถ้าคนที่ลดน้ำหนักหรือกลัวอ้วนก็ต้องไม่ใส่ผงชูรสเพิ่มในกรณีที่กินเมนูที่มีวัตถุดิบรสชาติเค็มแล้ว ให้เป็นสไตล์คลีนๆ ไม่รสชาติจัด และลดการทานให้ไม่เกินสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งนั่นเอง