หนึ่งในแบรนด์ที่โดนใจวัยรุ่นมาก ด้วยหน้าตาแพ็คเกจที่น่ารัก และราคาน่าคบกับแบรนด์ Essence แต่ตัวใหม่ล่าสุดที่เห็นแค่ภายนอกก็อยากได้มากๆ คือมาสคาร่ารุ่นล่าสุด Lash Goal ซึ่งสองรุ่นนี้มีความต่างกัน จะเลือกซื้อตัวไหน เดี่ยวเราไปอ่านรีวิวกัน
มาสคาร่า Long + Curl รุ่นกันน้ำ เน้นปัดขนตายาวงอน หัวแปรงมีความโค้งเล็กน้อย มีด้านเส้นสั้นและยาว จึงเข้าถึงเส้นเล็กๆ ได้ค่อนข้างดี เป็นเหมือนการเติมเต็มให้เส้นที่เข้าถึงยากให้ดูยาวขึ้นด้วย ซึ่งหลังจากปัดช่วยให้ขนตาดูยาวขึ้นได้ถึง 10 % โดยรวมให้ลุคที่ดูเป็นธรรมชาติ ลุคจึงดูใสๆ ใช้ได้ทุกวัน และยังเช็ดออกง่ายด้วยคลีนซิ่งออยล์
มาสคาร่า Volume + Curl รุ่นกันน้ำ เน้นปัดขนตาหนางอน หัวแปรงมีความโค้งมากกว่า จึงช่วยงัดเส้นขนตาได้มากตั้งแต่โคนถึงปลายเส้น เหมือนตัวโค้งดันโคนได้ง่ายโดยไม่เลอะ ซึ่งหลังปัด เส้นขนตาจะดูหนาขึ้นเท่าที่ต้องการ ทำให้ดูเด่นและโตขึ้น ไม่หนักขนตา แต่ถ้าปัดหนามากๆ เวลาเช็ดออกอาจจะต้องเช็ดหลายรอบนะจ๊ะ
เครื่องสำอางที่หลายคนเปลี่ยนบ่อยที่สุด นอกจากลิปสติกก็มาสคาร่านี่แหละ!? และส่วนใหญ่มักให้เหตุผลว่าที่ใช้อยู่มันแพนด้า ที่ใช้อยู่มันยาว มันงอน มันหนาไม่พอ งั้นมาลองดูมาสคาร่าไม่แพนด้า ที่เราแนะนำด้านล่างนี่ไหมล่ะ ไว้เป็นทางเลือกของแก๊งมาสคาร่ากันน้ำกันเหงื่อ
KISS ME Heroine Make Super Waterproof (580 บาท)
มีหลายรุ่นให้เลือก เป็นตัวดังของญี่ปุ่นเลยล่ะ หลายคนใช้แล้วติดใจมาก และตอนนี้ก็หาซื้อง่ายในไทยแล้วด้วย ตัวเนื้อมาสคาร่าแน่นรับกับหัวแปรง เส้นขนแปรงก็แน่นเช่นกัน เวลาปัดก็จะได้ความหนาสะใจ แต่ต้องระวังเนื้อมาสคาร่าอาจติดออกมาเยอะตามเช่นกันน้า
IT COSMETICS Superhero Mascara (980 บาท)
ตัวนี้แพ็คเกจดูเรียบหรู ส่วนหัวแปรงออกแบบให้ตรง ขนแปรงยาวเสมอกัน หัวใหญ่กำลังดี แต่แนะนำถ้าใครเป็นคนขนตาตกง่าย ควรดัดขนตาให้งอนก่อนจะปัด จะยิ่งช่วยล็อคขนตาให้อยู่ทนมากขึ้นนะจ้า
3INA The Waterproof Definition Mascara (590 บาท)
โดดเด่นที่หัวแปรงมีทั้งด้านที่เส้นแปรงสั้น และเส้นแปรงยาว เราจึงเลือกได้ว่าอยากจะเน้นความยาวก็ใช้ด้านขนแปรงยาว อยากเน้นความหนางอน ก็ใช้ด้านเส้นขนแปรงสั้นปัดและช่วยดันเส้นขนตางอนขึ้นได้ง่ายขึ้น
รีวิวมาสคาร่าหลักร้อยครั้งนี้เกิดจากความอยากรู้อยากเห็นล้วนๆ ว่า จะมีมาสคาร่าตัวไหนทำให้เราดูตาเด้งสวยเหมือนเสียเงินหลักพัน จึงไปเจอ 3 แบรนด์นี้ที่หลายคนหวีดมาก ซึ่งพอเราได้ลองก็เห็นว่าแต่ละตัวมีจุดที่ต่างกันทั้งหัวแปรง ผลลัพธ์หลังปัด และการใช้งานอยู่บ้าง เลยจับมารีวิวมาสคาร่าให้ดูซ่ะเลย
L’Oreal Paris Unlimited Mascara (399 บาท)
เป็นมาสคาร่าที่เราตั้งใจหยิบมารีวิวเพราะแค่มองแค่ภายนอกก็ดูแตกต่างไปจากตัวอื่นๆ และยังมีลูกเล่นของแปรงที่สามารถพับหักมุมได้ และล้างออกง่ายด้วยน้ำอุ่น โดยไม่ต้องใช้รีมูฟเวอร์เช็ด ป้องกันโอกาสเกิดเกิดผิวรอบดวงตาเหี่ยวย่นและขนตาร่วงได้ แต่เราติดอยู่อย่างเดียวอาจจะกินพื้นที่กระเป๋าเครื่องสำอางไปนิดเพราะน้องมาในหลอดอ้วน
Kate The Lash Former WP สูตร Volume (370 บาท)
เพราะเป็นสูตรที่ทนน้ำทนเหงื่อ และความมันบนใบหน้า จึงเหมาะกับคนที่มีปัญหามาสคาร่าหลุดเพราะชอบมีน้ำตาช่วงหัวตาระหว่างวัน และใครที่ชอบบ่นว่าดัดขนตาเท่าไรก็จะทิ่มตกลง ให้ลองใช้ตัวนี้ปัดดู เนื่องจากเป็นตัวที่ถูกออกแบบมาเฉพาะให้ ช่วยงัดเส้นขนตาที่ตกลงให้ตั้งขึ้น และล็อกความโค้งงอนจากภายในเส้นขนตาให้อยู่กับเรายาวนานขึ้นอีกด้วย ไม่เชื่อเดี๋ยวลองดูรีวิวตอนลองกับขนตาจริง
Mistine Boss Series X Mascara (169 บาท)
มาในคอนเซ็ปต์ขนตายาวหนาแต่ไม่หนัก ความพิเศษคือตัวนี้มีสารบำรุงให้ด้วยเพื่อให้ขนตาแข็งแรงขึ้นทุกครั้งที่ปัด อีกทั้งยังเหมาะกับคนที่กลัวจะเป็นคราบเลอะเพราะมีตัวเทคโนโลยีที่ช่วยให้ติดทนขึ้น ไม่เป็นตาแพนด้าระหว่างวันด้วยนะจ้า