แค่ลดใช้ถุงพลาสติกยังไม่พอ! มารู้จักสกินแคร์รักษ์โลกกันเถอะ
ยุคใหม่ปี 2020 นี้ ประเทศไทยเรียกว่ารณรงค์การใช้ถุงพลาสติกกันอย่างจริงจังมากขึ้น เริ่มจากการลดใช้ถุงพลาสติกในร้านสะดวกซื้อ หรือแม้แต่ลดการใช้แก้วพลาสติก และหลอด ซึ่งหากมองย้อนมาที่เรื่องใกล้ตัวอีกเรื่องอย่างความงาม แบรนด์ต่างๆ เองก็ใส่ใจเรื่องนี้มานาน เราจึงหยิบยกแบรนด์เด่นๆ มาให้ทุกคนรู้จักเพิ่มเติมว่าเค้ามีวิธีการดูแลโลกตามแบบฉบับตัวเองอย่างไร
แน่นอนว่าหลายคนคงทราบกันดีว่า แบรนด์นี้มีส่วนผสมหลักมาจากผึ้ง แต่การนำส่วนผสมนี้มาสกัดอยู่ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เกิดจากการเลี้ยงผึ้งให้เป็นไปตามวงจรชีวิตธรรมชาติ ไม่มีการจับมาทรมานหรือแม้แต่การทดลองกับสัตว์แต่อย่างใด และยังมีสถานที่ในการสื่อการเรียนรู้ The Observation Hive เพื่อดูวิถีความเป็นอยู่ของผึ้ง และเฝ้าสังเกตในสภาวะที่ประชากรผึ้งในโลกได้ลดลง รวมถึงตัวแพ็คเกจเองก็เลือกใช้พลาสติกให้น้อยที่สุด และต้องนำกลับมาใช้ใหม่ได้ นอกจากนี้ตัวหมึกที่พิมพ์ตัวอักษรหรือถุงกระดาษยังใช้หมึกพิมพ์ที่เป็นสีมากจากธรรมชาติ และสามารถย่อยสลายได้ จึงถูกยกย่องว่าเป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติอันดับหนึ่งจากอเมริกา
My Clarins
ถือเป็นแบรนด์ลูกของแบรนด์ Clarins ที่ทุกคนรู้จักดี เพิ่งเปิดตัวไม่นานในช่วงต้นปี 2019 แต่จะปรับเปลี่ยนหน้าตาไปจากเดิม รวมถึงมีการเอกลักษณ์ความเป็น My Clarins ที่ชัดเจน เพื่อตอบรับกระแสคน Gen Z ที่ไม่ได้ต้องการแค่ความงามแต่ต้องการเซฟโลกของเราอีกด้วย ซึ่งความดีงามคือการใส่ใจตั้งแต่ส่วนผสมที่เน้นยึดหลักจริยธรรมด้านสิ่งแวดล้อมด้วยการไม่ใช่ส่วนผสมและทดลองกับสัตว์ และถ้าสังเกตตัวขวดนั้นจะใช้เพียง 2 สีคือขาวเขียวและขาวแดง เป็นการสื่อกลายๆ ว่าขวดแก้วนี้สามารถนำมารีไซเคิลต่อได้นะเธอ หรือแม้แต่ตัวกล่องที่ใส่บรรจุภัณฑ์เอง ยังมีการเลือกใช้กระดาษแข็งที่มาจากป่ายั่งยืนอีกด้วย ที่สำคัญเลยนะแบรนด์นี้ยิ่งน่าสนใจมากตรงที่ราคานี่แหละ จะอยู่ระดับกลางๆ ไม่แพงเกินไป หรือประมาณ 700 – 1,300 บาทเท่านั้นจ้า แบบนี้น่าอุดหนุนเนอะ
Neal’s Yard Remedies
แบรนด์ออร์แกนิกจากอังกฤษที่ได้รับรางวัลมากกว่า 50 รางวัล ซึ่งรางวัลที่สร้างความภูมิใจและเป็นตัวชูแบรนด์นี้ไปทั่วโลกคือ รางวัล ‘Champion Status’ จาก The Campaign for Safe Cosmetics พันธะสัญญาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค และการร่วมสนับสนุนในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย แน่นอนว่าแบรนด์นี้จึงใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติที่ไม่มีสารเคมีผสมเลย 100% การันตีด้วยสัญลักษณ์รับประกันความเป็นออร์แกนิคจาก Soil Association องค์กรรับรองมาตรฐานการผลิตและการค้าสินค้าเกษตรอินทรีย์แห่งสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ยิ่งกว่า Eco เพราะเป็น Zero Waste คือการทำให้เกิดขยะหรือกระทบสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด เพราะฉะนั้นโรงงานที่ผลิตเองยังมีการบริหารจัดการก๊าซคาร์บอน และใช้ทรัพยากรให้น้อยที่สุด อย่างการใช้กระจก และประตูจากสแกนดิเนเวียที่ช่วยกักเก็บความอบอุ่นไว้ในตัวอาคารทั้งยังรับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ รวมถึงการเป็นผู้ค้าปลีกรายแรกในอังกฤษที่ได้รับเกียรติบัตร CarbonNeutral® จากการช่วยลดคาร์บอน ฟุตพริ้นท์ให้เหลือศูนย์ และถ้าสังเกตดีๆ ขวดจะเป็นสีน้ำเงินใสที่เบากว่าเดิม ช่วยลดการใช้ทรัพยากรและลดการปล่อยคาร์บอนจากการขนส่งทั่วโลก
The Body Shop
ขึ้นชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ดีต่อใจและดีต่อโลก เพราะ The Body Shop ให้ความสำคัญตั้งแต่คุณภาพสินค้าไปจนถึงขั้นตอนการผลิต ไม่ว่าจะเป็นการต่อต้านการทดสอบผลิตภัณฑ์ในสัตว์ การเลือกใช้พลังงานหยั่งยืนอย่างพลังงานลมในการผลิตเพื่อลดการสร้างคาร์บอนไดออกไซด์ และเป็นอีกหนึ่งแบรนด์บิวตี้ที่ก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการลดวิกฤติขยะพลาสติกอย่างจริงจัง ด้วยการนำแคมเปญที่เคยริเริ่มไว้ตั้งแต่ปี 1993 กลับมาอีกครั้ง โดยเชิญชวนให้ลูกค้าของ The Body Shop สามารถนำบรรจุภัณฑ์เปล่าที่ผ่านการใช้งานแล้วมารีไซเคิล และใช้เป็นส่วนลดในการซื้อสินค้าครั้งต่อไปได้
AVEDA
แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมของหนุ่มออสเตรียที่ขับเคลื่อนด้วยพลังแห่งความรักต่อสภาพแวดล้อมและความฝันที่จะทำให้โลกดีขึ้น Aveda มีกระบวนการผลิตที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมในทุกๆขั้นตอน ตั้งแต่เลือกใช้ส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จากแหล่งพืชยั่งยืนหรือสามารถปลูกทดแทนได้เพื่อไม่ให้กระทบต่อระบบนิเวศธรรมชาติ แถมแบรนด์นี้ยังเป็นมิตรกับสัตว์เอามากๆ ไม่ใช่แค่ไม่ทดลองกับน้องๆเท่านั้น แต่เป็นระดับที่ว่าโรงงานใหญ่ของ AVEDA ที่ตั้งอยู่ในเมืองมินเนสโซต้า ได้รับการรับรองให้เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า ภายใต้การดูแลของ National Wildlife Federation หรือ NWF เลยทีเดียว
Lush
หนึ่งในแบรนด์ที่ตัว Bath Bombs ดังมากและเป็นที่นิยม นอกจากนี้ยังเป็นแบรนด์ที่รับผิดชอบต่อธรรมชาติสูงมาก โดยเฉพาะการปล่อยก๊าซคาร์บอน เนื่องจากเป็นสาเหตุหลักที่หลายๆ แบรนด์จะเป็นกระบอกเสียช่วยลดโลกร้อน และการใช้ทรัพยากรสิ้นเปลืองได้เลยล่ะ ซึ่งถือเป็นโยบายหลักของบริษัท นอกจากนี้พวกพลาสติกทั้งหลายที่นำมาทำเป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์ก็สามารถย่อยสลายได้ 100% และถือเป็นจุดแข็งที่ทำให้ลูกค้ายังสามารถช้อปปิ้งได้อย่างเห็นคุณค่าของสิ่งแวดล้อมอีกด้วย