ดื่มน้ำให้ถูก ช่วยให้ผอมได้! ทริคจำง่ายๆ 1 2 3 2 1
ฮะ แค่ดื่มน้ำเนี่ยนะ ทำให้ผอมได้!?! ต้องขอบอกก่อนว่าการดื่มน้ำ ไม่ได้ช่วยให้น้ำหนักของเราลดลงโดยตรงหรอกค่ะ แต่ด้วยความที่น้ำเปล่านั้นปราศจากแคลลอรี่ อีกทั้งการดื่มน้ำเปล่าจะช่วยปรับอุณหภูมิในร่างกายให้ลดลง และช่วยดึงไขมันและพลังงานที่สะสมอยู่ตามร่างกาย ออกมาเผาผลาญเพิ่มขึ้น และตัวช่วยที่ดีมากของระบบย่อยอาหาร จึงเป็นที่มาว่าทำไมเราถึงได้บอกว่าดื่มน้ำเปล่าช่วยให้ผอมได้!
มาดื่มน้ำแบบสูตร 1 2 3 2 1 กันเถอะ!
เพราะว่าหลังตื่นนอนตอนเช้า หลังจากที่หลับไปหลายชั่วโมงช่วงนี้เลือดในร่างกายจะมีความข้นหนืดสูง หลังจากขาดน้ำมาทั้งคืน เราจึงต้องดื่มน้ำเข้าไปเพื่อช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี และช่วยกระตุ้นระบบการทำงานต่างๆ ของร่างกายให้ตื่นตัว โดยเฉพาะระบบขับถ่าย
สายๆ ดื่มอีก 2 แก้ว
ดื่มอีกสักแก้วก่อนรับประทานอาหารเช้าสัก 1 ชม. แต่ต้องระวังไม่ดื่มเยอะๆ ก่อนกินข้าวทันที เพราะจะทำให้น้ำย่อยเจือจาง และอาจส่งผลให้ย่อยอาหารได้ไม่ดีเท่าที่ควร จะทำให้ท้องอืดเอานะ! และเมื่อทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ดื่มน้ำอีกสักแก้ว เพราะตอนนี้เป็นช่วงที่ระบบต่างๆ ของร่างกายเริ่มทำงานเต็มที่ และเป็นช่วงที่ร่างกายเริ่มกำจัดของเสียที่ตกค้างเกิด จึงควรดื่มน้ำเข้าไปเพื่อช่วยชะล้างของเสียเหล่านั้นออกไปจากร่างกาย
หลังข้าวเที่ยงดื่มอีก 3 แก้ว
ช่วงกลางวันๆ ตั้งแต่เที่ยงถึงช่วงบ่าย สามารถค่อยๆ จิบไปเรื่อยๆ ให้ได้อย่างน้อย 2 แก้ว ไม่ต้องดื่มรวดเดียวนะ! เพื่อช่วยดับกระหาย ให้ร่างกายสดชื่น และเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวพรรณ โดยเฉพาะใครที่ทำงานในห้องแอร์ตลอดวัน ต้องระวังผิวแห้งนะจ๊ะ
เย็นๆ ก่อนกินข้าว อีก 2 แก้ว
อย่างที่บอกไปว่าการดื่มน้ำก่อนทานอาหารสัก 30 นาที – 1 ชั่วโมง จะทำให้ระบบเลือดและลำไส้ทำงานได้เป็นปกติ ช่วยให้ระบบย่อยทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และยังช่วยให้อิ่มเร็ว ไม่ทานเยอะเกินความจำเป็นด้วย
ก่อนนอนดื่มอีก 1 แก้ว
ก่อนจะนอนราว 1 ชม. ให้ดื่มน้ำอีกสักแก้ว เพื่อเป็นการชะล้างสิ่งที่ตกค้างในลำไส้ แต่อย่าดื่มมากเกินไป หรือดื่มใกล้เวลานอนมาก เพราะจะทำให้ปวดฉี่กลางดึก ซึ่งเป็นการรบกวนการนอน ทำให้นอนหลับไม่สนิทได้นะ
TIPS :
น้ำที่ดื่ม ให้ดีที่สุด ควรเป็นน้ำเปล่าอุณหภูมิห้อง ที่สะอาด ไม่ร้อน ไม่เย็นจนเกินไป และแม้ว่าเราจะแบ่งบางช่วงเวลาให้ดื่ม 2-3 แก้ว แต่ให้ค่อยๆ จิบไปเรื่อยๆ จะดีกว่า อย่าดื่มที่ละเยอะๆ จนรู้สึกจุกนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก https://bit.ly/3fHI74w https://bit.ly/2OttLsB