How toทำไมถึงต้องเปลี่ยนแปรงสีฟัน กับเรื่องใกล้ตัวที่ควรรู้ - Beauty See First

ทำไมถึงต้องเปลี่ยนแปรงสีฟัน กับเรื่องใกล้ตัวที่ควรรู้ – Beauty See First

ทำไมถึงต้องเปลี่ยนแปรงสีฟัน กับเรื่องใกล้ตัวที่ควรรู้

เปลี่ยนแปรง – (สุขภาพน่ารู้.com)

เป็นเรื่องที่อยู่ใกล้ตัวเรามากถึงมากที่สุด และจำเป็นต้องทำทุกเช้า คือการแปรงฟัน นั่นเอง แต่รู้หรือไม่! ว่าแปรงสีฟันก็เป็นหนึ่งในแหล่งสะสมแบคทีเรียที่อาจทำร้ายสุขภาพเราได้ แต่ที่เราพูดแบบนี้ไม่ได้ให้ทุกคนเลิกแปรงฟันนะ แค่ปรับพฤติกรรมบางอย่างก็เพียงพอจ้า

เพราะช่องปาก คือ แหล่งสะสมของแบคทีเรีย

ในช่องปากของเราถือว่าเป็นแหล่งที่อยู่ของเชื้อแบคทีเรียหลายร้อยชนิด ที่พร้อมจะเติบโตในทุกๆ สภาวะ การดูแลช่องปากทั้งเรื่องการกิน การทำความสะอาดจึงถือเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อลดการสะสมเชื้อแบคทีเรีย และยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อ ซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหาช่องปากต่างๆ การแปรงฟันถือเป็นหนึ่งในด่านแรกที่เราควรใส่ใจอย่างมาก เพราะจากงานวิจัยของทางมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ของอังกฤษ ได้ออกมาเผยข้อมูลเมื่อปี 2012 ว่า ในแปรงสีฟันถือเป็นแหล่งสะสมแบคทีเรียมากถึง 10 ล้านตัวเลยทีเดียว

สิ่งรอบตัวมักเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค

และล่าสุดเมื่อปี 2015 ก็มีงานวิจัยเพิ่มเติมของทางมหาวิทยาลัย Quinnipiac พบว่า เกือบร้อยละ 60 ของแปรงสีฟันที่ถูกทดสอบจะมีการปนเปื้อนของอุจจาระ ถ้าเราใช้ห้องน้ำร่วมกับผู้อื่นก็มีโอกาสมากถึงร้อยละ 80 ที่จะติดเชื้อโรคจากอุจจาระของผู้อื่นอีกด้วย เพราะฉะนั้นการรับมือกับสิ่งเหล่านี้ เราสามารถแก้ปัญหาเบื้องต้นได้ ดังนี้

ลดเชื้อโรคได้ง่ายๆ แค่ปรับพฤติกรรมที่ทำทุกวัน

1.ควรปิดฝาชักโครกทุกครั้งที่ทำธุระส่วนตัวเสร็จ เพื่อป้องกันเชื้อโรคกระเด็นไปโดนแปรงสีฟัน เพราะขณะที่เรากดชักโครก เชื้อโรคจะกระเด็นไปติดที่ต่างๆ ได้ไกลถึง 2 เมตรเลยทีเดียว โอ้ววว น่ากลัวแท้!

2.ไม่ใช้ฝาครอบหัวแปรงในขณะที่แปรงนั้นชื้นอยู่ เพราะเชื้อแบคทีเรียจะยิ่งชอบมากเพราะสามารถเจริญเติบโตได้ดีมาก จึงควรครอบหัวแปรงในขณะที่แปรงแห้งดีแล้วนะจ้า

3.ถ้าเป็นไปได้ควรล้างแปรงสีฟันด้วยน้ำยาบ้วนปาก หรือน้ำยาฆ่าเชื้อแปรงสีฟันก่อนใช้งานทุกครั้งเพื่อลดเชื้อแบคทีเรีย

4.ยาสีฟันช่วยได้ แนะนำให้เลือกสูตรที่ช่วยลดเชื้อแบคทีเรีย และทำความสะอาดช่องปากได้ง่าย ไม่แสบริมฝีปาก ซึ่งจะทำให้เราแปรงฟันได้นาน และมีประสิทธิภาพขึ้น

5.ควรเปลี่ยนแปรงสีฟันทุกๆ 3 เดือน หรือเมื่อขนแปรงเริ่มสึกหรอแล้ว เพื่อเป็นการลดการสะสมเชื้อแบคทีเรียที่อาจเข้าไปอยู่ในช่องปากเราได้ และแปรงใหม่จะมีขนที่นุ่ม สามารถที่จะกำจัดเชื้อจุลินทรีย์ได้ดีกว่าขนแปรงที่สึกหรอนั่นเอง

6.ที่สำคัญเลย ไม่ควรใช้แปรงสีฟันร่วมกับผู้อื่นนะจะบอกให้

ปล. เห็นข้อมูลแบบนี้ไม่ต้องกลัวการแปรงฟันไปนะทุกคน เพราะเรามีวิธีแก้ไขตามที่บอกได้ แต่ถ้าเราไม่แปรงฟันทุกวันจะยิ่งทำร้ายสุขภาพช่องปากแล้วถึงสุขภาพกายนะจ้า

Information Source: todaysrdh.com

Credit Photo: IG Organic Basics

บทความที่เกี่ยวข้อง

เนื้อหาใหม่ล่าสุด

More article