Tips&How to
วิธีดูน้ำส้ม ว่าน้ำส้มจริงหรือน้ำส้มผสม
อ.ดร.วนะพร ทองโฉม นักโภชนาการ กลุ่มสาขาวิชาโภชนศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้อธิบายเกี่ยวกับข้อสังเกตและการบริโภคน้ำส้มอย่างเหมาะสมเอาไว้ว่า จริงๆ แล้วการบริโภคส้มแบบเป็นลูกๆ จะให้คุณประโยชน์และกากใยอาหารมากกว่าการบริโภคในลักษณะของน้ำส้ม แต่ยังไงก็ยังมีวิธีการสังเกตและบริโภคน้ำส้มอย่างเหมาะสมอยู่เหมือนกัน
ในเลเวลเบสิกๆ เลยการบอกว่าน้ำส้มที่วางขายอยู่นั้นเป็นน้ำส้มแท้หรือไม่ สามารถดูได้จากข้อสังเกตุเหล่านี้
- ให้สังเกตว่ามีอุปกรณ์สำหรับการคั้นอยู่บริเวณนั้นหรือไม่ หากเป็นน้ำส้มแบบคั้นสดจริงต้องมีการใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ทุ่นแรงช่วยในการผลิต
- การแยกชั้น เมื่อตั้งทิ้งไว้เฉยๆ ประมาณ 15 นาที หากเป็นน้ำส้มแท้ชั้นของน้ำและเนื้อจะมีการแยกตัวกัน ในสภาวะอุณหภูมิปกติเนื้อส้มจะลอยอยู่ด้านบน และด้านล่างจะมีลักษณะเป็นน้ำส้มใสๆ แต่ในอุณหภูมิติดลบตะกอนเนื้อส้มจะจมอยู่ด้านล่างแทน
- สี กลิ่น และรส หากน้ำส้มมีสีและรสที่เข้มจัดจ้านเกินไปหรือใสเจือจางเกินไป อาจอนุมานได้ว่าเป็นน้ำส้มผสม และน้ำส้มแท้ควรมีกลิ่นของผิวส้มที่ชัดเจน
บางครั้งร้านค้าอาจมีการปรุงแต่งรสของน้ำส้มแท้คั้นสดด้วยการเพิ่มน้ำตาลหรือเกลือลงไปเล็กน้อย เพื่อให้ได้รสชาติที่คงที่สม่ำเสมอ แต่ก็ยังถือเป็นน้ำส้มแท้จากธรรมชาติอยู่ ในขณะที่น้ำส้มผสมหรือน้ำส้มปรุงแต่งจะได้จากการนำหัวน้ำส้มเข้มข้นมาผสมกับน้ำเปล่า ซึ่งหัวน้ำส้มส่วนใหญ่นั้นมักจะทำมาจากน้ำตาลที่มีการปรุงแต่งสีและกลิ่น
แล้วจริงๆ มันอันตรายต่างกันมากไหม
อันที่จริงแล้ว ประเด็นสำคัญที่เราต้องกังวลเกี่ยวกับการบริโภคน้ำส้มก็คือ “น้ำตาล” ซึ่งไม่ว่าจะ “น้ำส้มแท้คั้นสด” หรือ “น้ำส้มผสม” ต่างก็ให้พลังงานและน้ำตาลในปริมาณสูง โดยที่น้ำส้มธรรมชาติอาจจะมีได้เปรียบบ้างที่เราจะได้รับวิตามินและเกลือแร่ต่างๆ มาด้วย แต่ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน ก็สามารถใส่วิตามินและเกลือแร่ต่างๆ เหล่านั้นไว้ในน้ำส้มผสมเช่นกัน ในขณะที่น้ำส้มผสมโดยทั่วไปมักจะมีปริมาณน้ำตาลสูงมากยิ่งกว่าน้ำส้มคั้นสดเข้าไปอีก ดังนั้นสิ่งที่เราควรกังวลจริงๆ คือเรื่องของปริมาณการบริโภค การปนเปื้อน และความสะอาดในกรรมวิธีการผลิต
น้ำตาลเยอะ นี่เยอะขนาดไหน?
ในน้ำส้มขนาดประมาณ 100 – 120 ซีซี จะให้พลังงานอยู่ที่ประมาณ 60 kcal. และให้คาร์โบไฮเดรตจากน้ำตาลธรรมชาติถึง 15 กรัม (เทียบเท่าข้าวสวยราวๆ 1 ทัพพี) ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังในปริมาณการบริโภค หากดื่มมากเกินไปก็สามารถส่งผลเสียได้เหมือนกันนะคะ เพราะฉะนั้นไม่ควรดื่มเกิน 1 แก้ว หรือประมาณ 240 มิลลิลิตรต่อวันนะคะ ซื้อมาเยอะก็ค่อยๆ แบ่งดื่มดีกว่า เพราะโดยทั่วไปแล้ว น้ำส้มที่เก็บในตู้เย็นช่องแช่เย็นธรรมดา จะสามารถเก็บรักษาได้ประมาณ 3 – 5 วัน และอาจเก็บรักษาได้ถึง 5 – 7 วันหากแช่ในช่องแช่แข็ง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก RAMA CHANNEL
ABOUT THE AUTHOR Beauty See First editor