โรคตึกเป็นพิษ หรือ SBS (Sick Building Syndrome) เป็นเรื่องของการตอบสนองของร่างกายจากปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมในอาคารหรือพื้นที่ปิด ไม่มีสาเหตุแน่นอนว่าเกิดจากอะไรกันแน่
สาเหตุของการเกิดโรคตึกเป็นพิษ
สาเหตุไม่สามารถระบุได้ชัดเจน บางคนอาจมีสาเหตุมาจากอากาศในอาคาร วัสดุที่ใช้ประกอบอาคาร เสียงรบกวน ไฟฟ้า ความร้อนความชื้น แบคทีเรีย ความเครียด ฝุ่นละออง ควันบุหรี่ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด มูลแมลงหรือสัตว์ จากพวกเครื่องพิมพ์ เครื่องถ่ายเอกสาร ก็เป็นไปได้หมด พูดง่ายๆ สาเหตุก็อยู่ล้อมรอบภายในห้องปิดหรือพื้นที่นั้นๆ
ทั้งนี้ผู้ป่วยจึงควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาความเชื่อมโยงและวิเคราะห์ สังเกต จดบันทึกอาการตัวเองเบื้องต้นว่าเราจะเกิดอาการเฉพาะเวลาที่อยู่ในอาคาร และชอบเป็นซ้ำๆ แบบนี้หรือไม่
อาการเบื้องต้นของโรคตึกเป็นพิษ
อาการที่อาจจะเกิดขึ้นได้ หรืออาจจะเกิดเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเมื่อเข้าไปในตัวอาคาร โดยเฉพาะจะยิ่งทวีคูณขึ้นเหมือนอยู่เป็นระยะเวลานาน แต่อาการจะดีขึ้นเมื่อเราออกจากโซนหรืออาคารนั้น เช่น
- คล้ายอาการหวัด คือปวดหัว หนาว เป็นไข้ จาม ในบางคนจะมีน้ำมูกไหล หรือคลื่นไส้ได้
- รู้สึกแสบร้อนในจมูก เจ็บคอ แน่นหน้าอก
- ร่างกายเหนื่อยล้า ไม่มีสมาธิ หงุดหงิด หลงลืม
- ผิวแห้ง คัน หรืออาจมีผื่น
- เวลาหายใจอาจมีเสียงหวีดคล้ายคนเป็นภูมิแพ้
นอกจากนี้คนที่เป็นโรคภูมิแพ้ และหอบหืดมาก่อนก็จะสังเกตว่าอาการของโรคมันจะเกิดมากขึ้นกว่าเดิม
การป้องกันโรคหรือลดอาการเบื้องต้น
สำหรับคนที่มีอาการคล้ายหวัดหรือภูมิแพ้ สามารถทานยาลดอาการเหล่านั้นได้ แต่แน่นอนว่าจะให้อาการดีขึ้นได้หรือป้องกันก่อนที่จะเกิด ก็อาจจะต้องปรับเปลี่ยนบางอย่างในสถานที่ทำงานหรืออาคารนั้นๆ โดยเฉพาะคนที่ต้องอยู่สม่ำเสมอ เช่น
- การเปิดหน้าต่าง หรือมีตัวกรองอากาศเพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก
- ทำความสะอาดพื้นที่ให้สะอาด
- รักษาระดับความชื้นที่เหมาะสมให้อยู่ที่ 40 – 70%
- ควรใช้ไฟที่สว่างเพียงพอ และพลังงานน้อย
- สร้างบรรยากาศการทำงานที่ดีจะได้ไม่เครียด
- ถ้าหากอยู่ในห้องปรับอากาศ พยายามให้อุณหภูมิอยู่คงที่ ไม่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา
- สุดท้ายออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์บ้างในช่วงพักเวลางาน
ทั้งนี้หากเรามีอาการเมื่อเข้าไปในอาคารใดอาคารหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะแพ้ตัวตึกหรือสำนักงานอื่นๆ ไปหมดทุกสถานที่ เพราะอย่างที่บอกว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นมันอาจจะวิเคราะห์ยาก และขึ้นอยู่กับพื้นที่นั้นๆ ด้วย
Source: healthline, nhs.uk
Source: Photo