ไมเซล่า วอเตอร์ VS คลีนซิ่งออยล์ เช็ดกับนวด ผิวแบบนี้ต้องใช้แบบไหน?
เป็นสัปดาห์ที่เรายังวนเวียนกันอยู่ในเรื่องของการทำความสะอาด เพราะเราเชื่อว่าการทำความสะอาดที่ดี ถูกวิธี จะนำไปสู่การมีสุขภาพผิวดีได้ ฉะนั้นเวลานี้ที่หลายคนกำลังเริ่มกลับสู่โหมดการทำงาน แน่นอนทั้งไพรเมอร์ เมคอัพเบส รองพื้น หรือ เมคอัพคัลเลอร์ต่างๆ อาจอุดตันรูขุมขนได้หากทำความสะอาดไม่ดี หรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ตอบโจทย์สภาพผิว ทว่าใครไม่อยากตกม้าตายตั้งแต่ยังไม่เริ่ม เรามาทำความเข้าใจถึงผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด อย่างไมเซล่า วอเตอร์ และ คลีนซิ่งออยล์กันดีกว่า ว่าใช้ต่างกันอย่างไร และผิวแบบเราต้องใช้แบบไหนถึงจะได้ผลลัพธ์สูงสุด
ทำความสะอาดเหมือนกันแต่หน้าตาไม่เหมือนกัน
MICELLAR WATER: ลักษณะเป็นน้ำใสๆ ไม่เหนียวเหนอะหนะ เป็นโมเลกุลที่มี 2 ส่วน คือ ส่วนหัวที่ละลายได้ดีในน้ำ (hydrophilic end) และส่วนหางจะละลายได้ดีในไขมัน (Lipophilic end) ในส่วนนี้ที่จะจับกับคราบสกปรกและเครื่องสำอางบนใบหน้า ซึ่งการทำงานจะคล้ายสบู่หรือโฟมล้างหน้า ต่างตรงมีความอ่อนโยนต่อผิว ในบางผลิตภัณฑ์สามารถใช้ได้แม้รอบดวงตา หรือ บาวงแบรนด์แจ้งคุณสมบัติไว้ว่าทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึกโดยไม่ต้องล้างน้ำออก
CLEANSING OIL : ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นออยล์ ลักษณะมีความเข้มข้น ช่วยดูดจับ และดึงสิ่งสกปรกออกจากรู้ขุมขนได้ดี เนื้อข้นใส เหลืองใส แล้วแต่สูตรของแต่ละแบรนด์ ส่วนใหญ่จะมีกลิ่นหอมของน้ำมันเอสเซนเชียลตามแต่ละส่วนผสม มีความอ่อนโยนไม่แพ้ไมเซล่า วอเตอร์ คือ สามารถทำความสะอาดรอบดวงตา ริมฝีปากได้ ทว่าส่วนใหญ่จะทำความสะอาดเครื่องสำอางกันน้ำได้ด้วย
เรามีฝาแฝด VS เราลูกคนเดียว
MICELLAR WATER : เรามีฝาแฝด ชื่อไมเซลล่า ออยล์ สังเกตง่ายๆว่าถ้ามีชั้นเดียว คือเราเองไมเซล่า วอเตอร์ แต่ถ้า 2 ชั้นเป็นไมเซล่า ออยล์ แฝดพี่ของเรา สำหรับไมเซล่า วอเตอร์ จะไม่ทำให้ผิวรู้สึกแห้งตึงหลังการทำความสะอาด ส่วนใหญ่สาวๆจะเทใจให้เรา เพราะใช้ง่าย อ่อนโยนเหมาะกับคนที่ผิวแพ้ง่ายหรือผิวมัน ส่วนไมเซล่า ออยล์ ฝาแฝดของเรา ด้านบนจะเป็นน้ำมัน ด้านล่างจะเป็นน้ำใส เวลาใช้ต้องเขย่าให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกันก่อน ประเภทนี้ออกแบบมาเพื่อสาวๆที่รักการแต่งหน้า แต่อาจจะไม่ถูกใจคนผิวมันเท่าไหร่ เพราะจะทิ้งความมัน ให้ต้องตามด้วยโฟม หรือ เจลล้างหน้าอีกรอบ
CLEANSING OIL : เราเป็นลูกคนเดียว หน้าตาแตกต่างกันไปแล้วแต่นวัตกรรม และเทคโนโลยี แต่ส่วนประกอบของเราเป็นออยล์คุณภาพดี ที่มีส่วนช่วยเสริมน้ำหล่อเลี้ยงผิว ให้ผิวนุ่มหลังล้างหน้า และช่วยบำรุงฟื้นฟูผิวทั้งนั้น ซึ่งส่วนใหญ่เราจะหน้าตาคล้ายน้ำมันที่หล่อเลี้ยงผิว ทำให้ผิวที่เราทำความสะอาดไม่อุดตัน และไม่ค่อยเกิดสิว เนื่องจากเราเป็นน้ำมันดีที่ไม่ทำลายสมดุลค่า pH ตามธรรมชาติของผิว ทั้งยังช่วยปรับสมดุลให้กับผิว ตลอดจนทำความสะอาดได้โดยไม่ทำลายน้ำมันธรรมชาติบนใบหน้า
ผิวแบบนี้ต้องใช้แบบไหน
MICELLAR WATER : เราเหมาะกับคนผิวแพ้ง่ายหรือผิวมัน ทำความสะอาดผิวได้ดี แต่เครื่องสำอางกันน้ำเราไม่ค่อยชัวร์ ยิ่งถ้าเป็นพวกมาสคาร่ากันน้ำหนักๆ หรืออายไลเนอร์ติดทน อาจจะต้องเรียกแฝดพี่ ไมเซล่า ออยล์ หรือ คลีนซิ่งออยล์มาช่วย จะทำให้ขจัดคราบเครื่องสำอางได้หมดจดกว่า
CLEANSING OIL : เรามีความสำคัญกับทั้งคนผิวธรรมดา คนผิวมัน และคนผิวแห้ง ที่ต้องการทำความสะอาดแบบล้ำลึก ดึงสิ่งสกปรกและคราบฝุ่น สารเคมี จากเครื่องสำอางกันน้ำได้หมดจด โดยไม่ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื่นออกไป แต่ส่วนใหญ่คนผิวมันจะไม่ค่อยชอบเรา อยากให้เปิดใจนะ
ลักษณะการใช้ของเราต่างกัน
MICELLAR WATER : เราใช้หยดลงบนสำลี และเซ็ดไปที่ผิว เนื่องจากเนื้อเป็นน้ำ และน้ำผสมออยล์ การใช้ที่ถูกต้อง คือ การหยดลงบนสำลีให้ชุ่ม และเช็ดทำความสะอาดจนสำลีแผ่นสุดท้ายขาว แบบไม่มีคราบฝุ่น ครีม หรือเครื่องสำอางติดอยู่
CLEANSING OIL : เราใช้หยดลงบนฝ่ามือ วอร์ม และนวดลงบนผิว ในวันที่ไม่ได้แต่หน้าหนัก แค่ 20 วินาทีก็พอต่อการทำความสะอาด แต่ถ้าวันไหนแต่งหน้าเยอะ หรือเครื่องสำอางเป็นชนิดกันน้ำ แนะนำให้นวดวน 30-40 วินาที จะช่วยทำความสะอาดได้ล้ำลึกถึงรูขุมขน เป็นการกระตุ้นระบบการไหลเวียน ดึงสิ่งสกปรกออกมาได้อย่างหมดจด และป้องกันการเสียดสีของสำลีกับผิว ซึ่งถ้าสำลีไม่ดีก็เสี่ยงต่อการเกิดริ้วรอยได้ด้วย
อย่ารู้ว่าต้องเลือกใคร ให้ดูที่ไลฟ์สไตล์และสภาพผิว
MICELLAR WATER : เป็นคนผิวแพ้ง่าย มันง่าย ชอบการทำความสะอาดแบบเช็ด แต่งหน้าน้อยลงแค่ผิวเบาๆ และไม่ค่อยใช้เครื่องสำอางกันน้ำ
CLEANSING OIL : ผิวธรรมดา ผิวแห้ง ชื่นชอบและหลงใหลในการนวด ชอบกลิ่นของเอสเซนเชียลออยล์ และยังแต่งหน้าบ่อย ใช้เครื่องสำอางที่ค่อนข้างติดทน จึงต้องนวดวนเพื่อให้สิ่งสกปรกหลุดออกจากรูขุมขน
5 ประโยชน์ของเราสองคนที่อยากให้เพื่อนๆ มีไว้ดูแล
1.ช่วยเสริมประสิทธิภาพ และขั้นตอนการทำความสะอาด
2.ช่วยเก็บกักความชุ่มชื่น ไม่ให้ผิวสูญเสียน้ำมันใต้ผิว
3.ช่วยดึงคราบสิ่งสกปรก เมคอัพ ที่อาจอุดตันออกได้อย่างหมดจด
4.ลดการอุดตันผิว ที่เป็นสาเหตุของสิวอุดตัน และสิวอักเสบ
5.ผิวสะอาด ครีมบำรุงก็จะได้ลง ผิวก็ได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มที่